นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงประเด็นเกี่ยวกับโครงการ "ดิจิทัลวอลเล็ต" ว่า เอสเอ็มอี (SMEs) หลายภาคส่วนมองว่าเป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดี
แต่วิธีการ หรือที่มาของเงินยังทำให้เกิดความกังวล ซึ่งเข้าใจดีว่ารัฐบาลต้องทำตามกฎหมาย และแหล่งที่มาของเงิน โดยมองว่าไม่ต้องการให้เป็นภาระไปกดดันรัฐบาลเอง หรือทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบในการเป็นหนี้ระยะยาว
สำหรับสิ่งที่รัฐบาลยังขาดอยู่ คือ แผนที่นำทาง หรือโร้ดแมพที่ปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจน โดยนายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่อาจจะต้องทำความเข้าใจ ทำการการสื่อสารเชิงรุกให้กับประชาชนว่า
หลังจากนี้รัฐบาลจะทำอะไรต้องระบุเป็นข้อๆที่ชัดเจนสำหรับกระบวนการที่จะทำไปสู่การกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยอาจจะทำข้อเสนอแนะของเอกชน สื่อมวลชน ประชาชน หรือธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่นำเสนอเรื่องต่างๆที่เป็นประโยชน์กับรัฐบาลมาปรับ หรือนำมาเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินโครงการการดิจิทัลวอลเล็ต
อย่างไรก็ดี เอสเอ็มอียังมีความคิดเห็นตรงกันอีกก็คือ การนำโครงการดิจิทัลวอลเล็ตมาพัฒนากำลังคน พัฒนาเรื่องการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ เพื่อให้เกิดรายได้ที่สูงขึ้น ซึ่งจะนำมาสู่ความยั่งยืนในส่วนของผู้ว่างงาน หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐประมาณ 15 ล้านคน
โดยอาจจะนำมาพัฒนาให้เป็นกำลังแรงงานที่มีคุณภาพ มีผลิตภาพ หรือมาทำเป็นอาชีพอิสระ หรือเป็นเอสเอ็มอี ซึ่งหากเป็นเกษตรกรก็จะต้องพัฒนาไปสู่สายอาชีพที่เป็นผู้ประอบการ ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการเกษตร เอสเอ็มอี หรืออาชีพอิสระ