ดร.เกรียงศักดิ์ วงศ์พร้อมรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ เปิดเผยว่า สถาบันยานยนต์ได้ดำเนินการร่วมกับบริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) พัฒนาการจัดการซากยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี (EV) ในประเทศไทย รวมถึงกรรมวิธีการจัดการซากรถยนต์ ให้ได้มีการกำจัดอย่างถูกวิธีตามหลักเกณฑ์ที่ถูกต้องตามกฏหมาย
ทั้งนี้ จากนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการใช้ EV โดยตั้งเป้าการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าภายในปี พ.ศ. 2573 ไว้ที่ 30% ของการผลิตรถยนต์ในประเทศ เพื่อเป้าหมาย การลดมลพิษ รักษาสิ่งแวดล้อม
ซึ่งสถาบันยานยนต์คำนึงถึงสิ่งสำคัญที่ต้องดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมควบคู่กันไปด้วย คือ กระบวนการบริหารจัดการรถยนต์ที่หมดอายุใช้งานอย่างครบวงจร เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมระยะยาว การใช้ประโยชน์จากชิ้นส่วนซากอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดการแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า
รวมถึงต่อยอดมูลค่าหลังการใช้งานในอีวี เช่น ระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System) และผลักดันให้เกิดการรีไซเคิล การหมุนเวียนทรัพยากรให้กลายเป็นชิ้นส่วนที่เป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรม เช่น เหล็ก ยาง พลาสติก
"ความร่วมมือดังกล่าว จะเป็นการประสานทางวิชาการ การวิจัยและพัฒนา เพื่อศึกษาค้นคว้า แลกเปลี่ยนข้อมูลทางวิชาการ ในประเด็นความเป็นไปได้ในเรื่องกระบวนการจัดการ นับว่าเป็นอีกก้าวหนึ่งที่ทุกภาคส่วนได้แสดงศักยภาพ ร่วมกันค้นคว้าสิ่งใหม่ๆ เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ พัฒนาประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคง ควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน"
นางสาวณัฐพรรณ เหลืองวิริยะ กรรมการ และรองกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจ และสื่อสารองค์กร บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลุ่มบริษัท เบตเตอร์ กรุ๊ป มีประสบการณ์ด้านการบริหาร และจัดการกากอุตสาหกรรมแบบครบวงจร ด้วยวิธีการบำบัด กำจัดนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ด้านพลังงาน
โดยรถ EV กำลังเป็นที่นิยม และได้รับส่วนแบ่งการตลาดอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ประเทศไทยจึงมีความจำเป็นที่จะต้องวางแผนในการจัดการ ซากรถยนต์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่เสื่อมสภาพในระยะยาว เพื่อให้ไม่เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และชุมชน