ประมวลสงครามการค้า "สหรัฐฯ-จีน" จากจุดเริ่มต้นสู่ความขัดแย้งรอบใหม่

15 พ.ค. 2567 | 11:23 น.
อัปเดตล่าสุด :15 พ.ค. 2567 | 11:24 น.

ประมวลเหตุการณ์สำคัญในแต่ละช่วงเวลาของสงครามการค้าของมหาอำนาจ "สหรัฐฯ-จีน" ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนมาถึงความขัดแย้งรอบใหม่ในปี 2024

สงครามการค้าระหว่าง สหรัฐฯและจีน กำลังร้อนระอุอีกครั้ง หลังจากที่มีการผ่อนคลายความตึงเครียดไปช่วงหนึ่ง ล่าสุดทั้งสองประเทศมหาอำนาจได้ประกาศใช้มาตรการทางการค้าเพิ่มเติมที่อาจนำไปสู่การตอบโต้ซึ่งกันและกัน บรรยากาศความขัดแย้งทางการค้าระหว่างวอชิงตันและปักกิ่งดูจะไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลายลงในเร็ววัน ทั้งสองฝ่ายต่างยืนกรานในจุดยืนของตนเอง สร้างความกังวลต่อเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจโลก

สงครามการค้ารอบใหม่ มีรากฐานมาจากความพยายามของสหรัฐฯในการรักษาอำนาจเหนือจีนที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว รวมถึงประเด็นข้อพิพาทต่างๆ ที่สั่งสมมานานในด้านการค้า เทคโนโลยี สิทธิทรัพย์สินทางปัญญา และความมั่นคงทางการทหาร ส่งผลกระทบไปทั่วโลก เนื่องจากทั้งสองชาติมีบทบาทสำคัญในเวทีเศรษฐกิจโลก การใช้มาตรการกีดกันทางการค้าต่างๆ อาจส่งผลกระเทือนต่อห่วงโซ่อุปทานและการลงทุน กระทบกระเทือนไปถึงธุรกิจ ผู้บริโภค และประเทศคู่ค้าอื่นๆ รอบด้าน ประเด็นสงครามการค้าจึงได้รับความสนใจจากนักวิเคราะห์และสื่อมวลชนทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง

เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐ ยืนยันว่า การที่รัฐบาลสหรัฐประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้ารอบใหม่จากจีนนั้น จะช่วยปกป้องธุรกิจและแรงงานของสหรัฐ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าในสหรัฐ  ขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งจีนผลิตได้ในราคาถูกกว่า เมื่อบริษัทของสหรัฐสามารถพัฒนาการผลิตรถยนต์เหล่านี้ได้ ราคาก็จะปรับตัวลงเอง

มีรายงานว่า  จีนมีแผนจะตอบโต้การกระทำของสหรัฐด้วยมาตรการที่เด็ดขาด แต่ไม่ได้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการตอบโต้

 

จุดเริ่มต้นที่ชัดเจนของความขัดแย้งครั้งใหญ่เริ่มขึ้นในปี 2018  เป็นปีเศรษฐกิจโลกเผชิญความไม่แน่นอนมากที่สุด ทำให้นิยามคำว่า Trade war หรือ สงครามการค้า สะท้อนผ่านความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนในรอบปีดังกล่าวได้ดีที่สุด เนื่องจากสองประเทศเปิดศึกการค้าต่อกันอย่างดุเดือด ความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีระหว่างจีนและสหรัฐฯ ก้าวถอยหลังลง 

ประมวลสงครามการค้า สหรัฐฯ-จีน ปี 2561 - ปัจจุบัน 

ปี 2561  เริ่มแรกของสงครามการค้า

  • สหรัฐฯประกาศเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมจากจีน
  • จีนตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ มูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์
  • สหรัฐฯประกาศเก็บภาษีสินค้าจีนกว่า 800 รายการ มูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์

ปี 2562 สงครามการค้าทวีความรุนแรง

  • สหรัฐฯขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนอีก 2 เเสนล้านดอลลาร์ จากเดิม 10% เป็น 25%
  • จีนประกาศเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯเพิ่มเติมอีก 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์
  • สหรัฐฯเพิ่มภาษีสินค้าจีนรอบใหม่อีก 1.56 เเสนล้านดอลลาร์

ปี  2563  ผ่อนคลายชั่วคราว

  • สหรัฐฯและจีนลงนามความตกลงการค้าระยะที่ 1 หลังเจรจานาน 2 ปี
  • จีนตกลงเพิ่มการนำเข้าสินค้าเกษตรและบริการจากสหรัฐฯมากขึ้น
  • สหรัฐฯ ลดภาษีนำเข้าบางรายการของจีน 

ปี 2565 Trade War เป็น Tech War

  • สหรัฐฯ พยายามจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีผลิตชิพของจีน
  • สหรัฐฯเพิ่มคว่ำบาตรบริษัทเทคโนโลยีจีนมากขึ้น
  • จีนตอบโต้ด้วยการออกกฎระเบียบใหม่ควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีและวัสดุบางประเภท

ปี 2566  สั่นคลอนยุทธศาสตร์ Made in China 2025

  • สหรัฐฯ ออกมาตรการใหม่ ห้ามไม่ให้บริษัทเอ็นวิเดีย (Nvidia) ขายชิป AI ซึ่งเป็นชิปที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในจีน 

สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน รอบใหม่

ปี 2567 สงครามการค้ารอบใหม่ 

สหรัฐใช้มาตรการทางภาษีรับมือกับสินค้าราคาถูกจากจีนที่ทะลักเข้ามาในประเทศ 

  • รถยนต์ไฟฟ้า (อีวี)  ขึ้นภาษีจากเดิม 27.5% เป็น 102.5%
  • แผงโซลาร์ -ขึ้นภาษีจากเดิม 25% เป็น 50%
  • เหล็กและอะลูมิเนียม (บางประเภท)  ขึ้นภาษีจากเดิม 0% หรือ 7.5%  เป็น 25%
  • แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน (EV)  ขึ้นภาษีจากเดิม 7.5% เป็น 25% 
  • แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน (non-EV)  ขึ้นภาษีจากเดิม 7.5% เป็น 25% (เริ่ม 2569)
  • เซมิคอนดักเตอร์  ขึ้นภาษีจากเดิม 25% เป็น 50% (เริ่ม 2568)
  • กระบอกฉีดยาและเข็มฉีดยา  ขึ้นภาษีเป็น 50%
  • อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE)  ขึ้นภาษีจากเดิม 0% หรือ 7.5% เป็น 25%
  • ถุงมือยาง - ขึ้นภาษีจากเดิม 7.5% เป็น 25% (เริ่ม 2569)

ประมวลสงครามการค้า \"สหรัฐฯ-จีน\" จากจุดเริ่มต้นสู่ความขัดแย้งรอบใหม่

ที่มา