เปิดตัวเลข สหรัฐฯ นำเข้ารถ BEV จากจีน สัดส่วนแค่ 2%

18 พ.ค. 2567 | 01:57 น.
อัปเดตล่าสุด :18 พ.ค. 2567 | 02:00 น.

เปิดตัวเลข สหรัฐฯ นำเข้ารถ BEV จากจีน มีสัดส่วนแค่ 2% กีดกันการนำเข้าไม่ส่งผลกระทบ ในขณะที่ยุโรปปั่นป่วน หลายชาติต้องการร่วมวงขึ้นภาษี รถ BEV จีน

หลังจากที่สหรัฐฯ ประกาศใช้มาตรการทางภาษีรับมือกับสินค้าราคาถูกจากจีนที่ทะลักเข้ามาในประเทศ โดยมีรายการสินค้ามูลค่ารวมกว่า 18,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.64 แสนล้านบาท) โดยมีรายการสินค้าดังนี้ 

  • รถยนต์ไฟฟ้า (อีวี)  ขึ้นภาษีจากเดิม 27.5% เป็น 102.5%
  • แผงโซลาร์ -ขึ้นภาษีจากเดิม 25% เป็น 50%
  • เหล็กและอะลูมิเนียม (บางประเภท)  ขึ้นภาษีจากเดิม 0% หรือ 7.5%  เป็น 25%
  • แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน (EV)  ขึ้นภาษีจากเดิม 7.5% เป็น 25% 
  • แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน (non-EV)  ขึ้นภาษีจากเดิม 7.5% เป็น 25% (เริ่ม 2569)
  • เซมิคอนดักเตอร์  ขึ้นภาษีจากเดิม 25% เป็น 50% (เริ่ม 2568)
  • กระบอกฉีดยาและเข็มฉีดยา  ขึ้นภาษีเป็น 50%
  • อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE)  ขึ้นภาษีจากเดิม 0% หรือ 7.5% เป็น 25%
  • ถุงมือยาง - ขึ้นภาษีจากเดิม 7.5% เป็น 25% (เริ่ม 2569)

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานมูลค่าการส่งออกรถยนต์ไฟฟ้า หรือ BEV จากจีนไปประเทศ หรือภูมิภาคต่างๆ ในปี 2566 โดยมีมูลค่าดังนี้

  • สหภาพยุโรป 13.47 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • สหราชอาณาจักร 4.35 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ 
  • กลุ่มประเทศอาเซียน 3.15 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • ภูมิภาคตะวันออกกลาง 2.72 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • โอเชียเนีย  2.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • สหรัฐอเมริกา 3.32 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ

โดยหากเทียบสัดส่วนมูลค่าการนำเข้ารถ BEV  ของสหรัฐในปี 66 นั้น มีการนำเข้าจากยุโรปมากที่สุด 43% รองลงมาคือเกาหลีใต้ 24% ตามด้วยเม็กซิโก 20%  ญี่ปุ่น 11% ส่วนการนำเข้ารถ BEV จากจีนไปสหรัฐมีสัดส่วนเพียงแค่ 2% เท่านั้น

มาตรการกีดกันทางภาษีครั้งนี้ ในกรณีของสหรัฐฯ แม้ผลกระทบโดยตรงจะไม่มาก เพราะ BEV จีนยังแทบไม่ได้ทำตลาดในสหรัฐฯ แต่จีนอาจหันไปใช้เม็กซิโกเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งไปแทน ซึ่งจะส่งผลกระทบกับสหรัฐฯในอนาคต

เปิดตัวเลข สหรัฐฯ นำเข้ารถ BEV จากจีน สัดส่วนแค่ 2%

นอกจากนี้ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังวิเคราะห์ถึงผลกระทบกับสหภาพยุโรปด้วย เนื่องจากจะได้รับผลกระทบทันทีเพราะเป็นตลาดส่งออกหลักของจีน ซึ่งปัจจุบันยังมีความเห็นที่ไม่ตรงกันในกลุ่มสมาชิก ทำให้การปรับภาษีขึ้นอาจไม่สูงเท่ากับสหรัฐกีดกันจีน

โดยในส่วนนี้ รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง มองว่า หากจีนหันไปใช้เม็กซิโกเป็นฐานการผลิตแทน สหรัฐก็จะหันไปขึ้นภาษีกับทางเม็กซิโก หรือเป็นการคว่ำบาตรทางอ้อม (Secondary Sanction) กับประเทศที่ให้การสนับสนุนจีน ซึ่งก็จะทำให้สถานการณ์ซับซ้อนขึ้นไปอีกระดับ โดยในส่วนของยุโรปเองก็เตรียมออกมาตรการแล้วเช่นกัน 

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปว่า หากคิดจากอัตราภาษีที่ยังไม่ได้ประกาศ เป็นเพียงการพูดถึงในสื่อ สหรัฐก็จะขึ้นภาษีรถ BEV จากจีนที่นำเข้าผ่านเม็กซิโก จาก 0% ขึ้นเป็น 200%  ในขณะที่สหภาพยุโรป จะขึ้นภาษีนำเข้ารถ BEV จากจีน ที่เดิมทีเก็บเพียงแค่ 10%  เป็น 25-30%