ส่องเทรนด์แฟชั่นสิงคโปร์ ปี 67 ชี้ช่องทางผลิตสินค้าส่งออก

21 พ.ค. 2567 | 06:33 น.
อัปเดตล่าสุด :21 พ.ค. 2567 | 06:46 น.

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เผย ผลสำรวจลเทรนด์แฟชั่นสิงคโปร์ ปี 67 ผู้บริโภคสฮิตสินค้าทำจากวัสดุเหลือใช้ ผ้าโปร่งสีขาว กางเกงยีนส์เอาต่ำ-สูง กระเป๋าทำจากวัสดุรีไซเคิล แนะผู้ส่งออกไทยศึกษาและวางแผนผลิตสินค้าไปขาย

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทำการสำรวจและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ ล่าสุดได้รับรายงานจากนางณฐมา คูณผล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ สิงคโปร์ ถึงเทรนด์แฟชั่นของสิงคโปร์ในปี 2567 และโอกาสในการสินค้าแฟชั่นของไทยเข้าสู่ตลาดสิงคโปร์

โดยทูตพาณิชย์ได้รายงานข้อมูลว่า ปัจจุบันสิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศศูนย์กลางแฟชั่นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จากการที่ประชาชนมีรายได้สูง ในปี 2567 รายได้เฉลี่ยต่อหัวในครัวเรือนของชาวสิงคโปร์อยู่ที่ 32,930 ดอลลาร์ และชาวสิงคโปร์มีความสนใจแฟชั่น ซึ่งสินค้าแฟชั่นเป็นหนึ่งในสินค้าขายดีบนช่องทางอีคอมเมิร์ซ โดยเครื่องแต่งกายเป็นกลุ่มสินค้าแฟชั่นที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ รายได้คาดการณ์อยู่ที่ 2,680 ล้านดอลลาร์ อัตราการเติบโตต่อปีอยู่ที่ 3.37% ระหว่างปี 2567-2570 ซึ่งเป็นผลมาจากการเข้าถึงตลาดแฟชั่นชั้นสูงได้ง่ายขึ้น อัตราการเข้าถึงช่องทางอีคอมเมิร์ซที่สูง และช่องทางการชำระเงินที่หลากหลายล้วนเป็นปัจจัยทำให้ตลาดแฟชั่นในสิงคโปร์เติบโตมากขึ้น

สำหรับเทรนด์แฟชั่นของสิงคโปร์ในปี 2567 ได้แก่ Sustainable Fashion แฟชั่นแบบยั่งยืนเป็นเทรนด์หลักของตลาดโลก รวมถึงสิงคโปร์เช่นกัน การนำผ้าเหลือใช้ และการ Upcycling (การนำของเหลือมาแปรรูปเป็นสิ่งใหม่) กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ผลิต นักออกแบบ และผู้บริโภค เสื้อผ้าที่ทำจากวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ผ้าฝ้ายออร์แกนิค โพลีเอสเตอร์รีไซเคิล และใยไม้ไผ่ เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคในสิงคโปร์มากขึ้น

ข้อมูลจาก YouGov ระบุว่า ผู้บริโภคชาวสิงคโปร์ 1ใน5 ชอบซื้อเสื้อผ้าจากแบรนด์ที่ยั่งยืน โดยส่วนใหญ่จะซื้อผลิตภัณฑ์คุณภาพดี และการสำรวจของ Fashion Revolution Singapore ตั้งข้อสังเกตว่า 60% ของผู้บริโภคยินดีที่จะจ่ายแพงขึ้นสำหรับซื้อผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ที่ยั่งยืน อาทิ Street Style Fashion แฟชั่นแนวสตรีทของสิงคโปร์ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากการผสมผสานสไตล์แฟชั่นโลกกับแฟชั่นท้องถิ่น เข้ากับอิทธิพลทางวัฒนธรรมสิงคโปร์ 

ทั้งนี้ แบรนด์แฟชั่นของกลุ่ม Gen-Z กำลังกำหนดทิศทางแฟชั่นแนวสตรีทของสิงคโปร์ ผ่านการออกแบบที่มีความหลากหลาย การผสมผสาน และการทดลอง Gender Fluid Fashion แฟชั่นไม่ระบุเพศกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในสิงคโปร์ ช่วยให้ทั้งชายและหญิงสามารถแสดงตัวตนของตนได้

Sheer White Clothing ผ้าโปร่งเป็นที่นิยมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รวมถึงเทรนด์ปีนี้เช่นกัน แต่จะเน้นที่ผ้าโปร่งสีขาว เพราะสีขาวยังเป็นสีของแฟชั่นฤดูใบไม้ผลิ-ฤดูร้อนของปี 2567 ไม่ว่าจะเป็น เสื้อ กระโปรง โดยเฉพาะกระโปรงยาวคลาสสิกผ้าโปร่งสีขาวจะเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก

Low-Rise and Slouchy Jeans กางเกงยีนส์เอวต่ำ และกางเกงทรงสอบเอวสูงกำลังจะกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในปีนี้ โดยเฉพาะกระแสการใส่กางเกงหลุดพ้นบั้นเอว (Sagging Pants) เป็นสินค้าแฟชั่นที่มาแรง เพราะว่าใส่สบายและอีกเทรนด์ที่ได้รับความนิยมในสิงคโปร์คือ ชุดเดรสเมทัลลิก โดยเฉพาะเดรสยาว และเสื้อสายเดี่ยว

นอกจากนี้ ผู้หญิงสิงคโปร์ยังชอบการแต่งตัวแบบสบายแบบมีสไตล์ ดังนั้น กางเกงขาสั้น เสื้อยืด กระโปรงยาว และเดรสที่ทำจากผ้าลินิน ผ้าวิสโคส และผ้าฝ้ายจึงได้รับความนิยมอยู่เสมอ Floral Clothing เสื้อผ้าลายดอกไม้เป็นอีกเทรนด์ที่กำลังจะกลับมาในปีนี้ ผ้าลายดอกที่มีส่วนผสมของสีส้มพีช และสีส้มอมชมพูที่เป็นแพนโทนของปีนี้

กระเป๋าถือ ชาวสิงคโปร์มักจะชื่นชอบกระเป๋าถือแบรนด์หรู แต่แบรนด์สิงคโปร์ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน กระเป๋าที่ได้รับความนิยมในปีนี้ ได้แก่ กระเป๋าแคนวาส กระเป๋าผ้า กระเป๋า โอเวอร์ไซส์ กระเป๋าที่มีความนุ่มและสไตล์สปอร์ตที่ทำจากวัสดุรีไซเคิลและย่อยสลายได้ทางชีวภาพจะได้รับความนิยมมากขึ้นในปีนี้ ยอดขายของตลาดกระเป๋าสิงคโปร์คาดว่าจะอยู่ที่ 373.40 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เนื่องจากฐานลูกค้าส่วนใหญ่ร่ำรวย ชื่นชอบเครื่องประดับแฟชั่นหรูจะยังกระตุ้นความต้องการซื้อกระเป๋าหรูในสิงคโปร์

รองเท้า ประเทศขนาดเล็กอย่างสิงคโปร์มีประชากรเพียง 6 ล้านคน แต่ชาวสิงคโปร์โดยเฉลี่ยมีรองเท้า 5.08 คู่ต่อคน รองเท้าสามารถขายได้มากกว่า 22 ล้านคู่ในสิงคโปร์ทุกปี และคาดว่า จะสูงถึง 35.53 ล้านคู่ภายในปี 2571 ยอดขายตลาดรองเท้าในสิงคโปร์ในปี 2567 คาดว่าจะอยู่ที่ 1,140 ล้านดอลลาร์ โดยมากแบรนด์ที่ไม่ใช่แบรนด์หรูจะครองตลาดรองเท้า

“อุตสาหกรรมแฟชั่นเป็นหนึ่งในนโยบาย Soft Power ที่สำคัญของไทย กรมได้มีการส่งเสริมนักออกแบบและแบรนด์แฟชั่นไทยสู่ตลาดโลกมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับปัจจุบัน มีการนำความรู้ นวัตกรรม รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาประยุกต์ใช้ในวงการแฟชั่นไทยอย่างกว้างขวาง และมีการนำเสนอให้เข้ากับเทรนด์ต่างของโลก การสำรวจความนิยม และเทรนด์ตลาดแต่ละประเทศ จะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยเข้าใจผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย สามารถพัฒนาสินค้าให้ตรงกับความนิยมในตลาด ซึ่งจะเป็นการช่วยเพิ่มมูลค่าการผลิตและส่งออกของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี”นายภูสิต กล่าว