นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า(JTC) ไทย-ภูฏาน (ระดับรัฐมนตรี) ครั้งที่ 5 ในวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 ณ กรุงทิมพู ราชอาณาจักรภูฏาน ว่า ในการประชุม JTC ไทย-ภูฏาน ตนเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยซึ่งเป็นประธานร่วมกับนายนัมเกล ดอร์จี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พาณิชย์ และการจ้างงาน ประธานร่วมฝ่ายภูฏาน หัวหน้าคณะผู้แทนภูฏาน โดยในการประชุมทั้งไทยและภูฏานได้หารือในประเด็นทางการค้าในด้านต่าง ๆ ดังนี้
นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์ โดยสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ SACIT ของไทย ได้ร่วมลงนาม MOU ว่าด้วยการส่งเสริมงานศิลปหัตถกรรมร่วมกับกรมการสื่อสาร อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งจะเป็นกลไกที่จะช่วยให้ไทยและภูฏาน ส่งเสริมงานฝีมือของทั้งสองประเทศ โดยสองฝ่ายจะกำหนดแนวทางการแลกเปลี่ยนความรู้ การสร้างศักยภาพ และสร้างเป้าหมายการพัฒนาเพื่อส่งเสริมงานฝีมือของทั้งสองฝ่าย ภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือเป็นระยะเวลา 5 ปี
นายนภินทร กล่าวอีกว่า ตนได้เชิญภูฏานเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในประเทศไทย อาทิ งาน THAIFEX Anuga Asia 2024 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้านานาชาติด้านอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ในวันที่ 28 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2567 และงาน Bangkok Gems & Jewelry Fair 2024 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่ใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของเอเชีย ในวันที่ 9-13 กันยายน 2567 โดยผมได้มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงธากา บังกลาเทศ ซึ่งมีเขตอาณาครอบคลุมภูฏานช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักธุรกิจภูฏานที่สนใจ
ทั้งนี้ ได้มีกล่าวเปิดการเจรจาตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างไทยกับภูฏานอย่างเป็นทางการ เพื่อเปิดเสรีทางการค้าจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะกระตุ้นให้เกิดการขยายตัวของการค้าให้บรรลุเป้าหมายที่ 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อีกทั้งการสานต่อปฏิสัมพันธ์ทั้งในระดับรัฐและเอกชนระหว่างกันจะเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการค้า
“ผมมีความตั้งใจและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเปิดการเจรจา FTA ไทย ภูฏาน โดยขอเร่งรัดให้มีการเจรจา FTA ดังกล่าว เพื่อให้มีผลโดยเร็ว ซึ่งการเจรจารอบแรก ภูฏานจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2567 ณ กรุงทิมพู ราชอาณาจักรภูฏาน โดยมีอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เป็นประธานฝ่ายไทยร่วมเจรจา และในส่วนการประชุม JTC ครั้งต่อไป (ครั้งที่ 6) ไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมโดยขอเชิญรัฐมนตรีภูฏานเยือนประเทศไทยในปีหน้า” นายนภินทร กล่าว
ปัจจุบัน ประเทศภูฏานเป็นคู่ค้าอันดับที่ 7 ของไทยในภูมิภาคเอเชียใต้ รองจากอินเดีย ปากีสถาน บังกลาเทศ ศรีลังกา มัลดีฟส์ และเนปาล ตามลำดับ สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปภูฏาน เช่น
สินค้านำเข้าสำคัญของไทยจากภูฏาน เช่น