ไทย-ภูฏาน เปิดเจรจา FTA ดันขยายมูลค่าการค้า 120 ล้านดอลลาร์ ในปี 68

16 พ.ค. 2567 | 10:40 น.

รมช.พณ.นภินทร ร่วมประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า ไทย-ภูฏาน ครั้งที่ 5 กับ นัมเกล ดอร์จี รมต.อุตสาหกรรม พาณิชย์ และการจ้างงาน ประธานร่วมฝ่ายภูฏาน เตรียมเปิดการเจรจา FTA เพิ่มศักยภาพการส่งออก ลดอุปสรรคทางการค้า ผลักดันมูลค่าทางการค้า 120 ล้านดอลลาร์ ในปี 2568

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า(JTC) ไทย-ภูฏาน (ระดับรัฐมนตรี) ครั้งที่ 5 ในวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 ณ กรุงทิมพู ราชอาณาจักรภูฏาน ว่า ในการประชุม JTC ไทย-ภูฏาน ตนเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยซึ่งเป็นประธานร่วมกับนายนัมเกล ดอร์จี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พาณิชย์ และการจ้างงาน ประธานร่วมฝ่ายภูฏาน หัวหน้าคณะผู้แทนภูฏาน โดยในการประชุมทั้งไทยและภูฏานได้หารือในประเด็นทางการค้าในด้านต่าง ๆ ดังนี้

  • การส่งออกสินค้าเกษตร ไทยยินดีให้การสนับสนุนภูฏานเปิดตลาดสินค้าเกษตรที่ภูฏานสามารถส่งมายังไทยได้จะต้องมีใบรับรองสุขอนามัยพืช (Phytosanitary Certificate) ที่ออกโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของภูฏานแนบมาพร้อมสินค้า เช่น แอปเปิ้ล ส้ม มันฝรั่ง น้ำผึ้ง ขิง และเห็ด
  • อุตสาหกรรมเกษตร ภูฏานมีการส่งเสริมการทำการเกษตรแบบอินทรีย์ ซึ่งผู้ประกอบการไทยมีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้ จึงอาจเป็นโอกาสดีที่ผู้ประกอบการไทยอาจพิจารณาเข้าไปลงทุนพัฒนาเกษตรกรรมในภูฏาน
  • ปัจจุบันภูฏานกำลังจัดทำสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์แห่งชาติ และได้มอบหมายให้กรมทรัพย์สินทางปัญญาของไทย ร่วมแบ่งเป็นองค์ความรู้ ประสบการณ์ และแนวปฏิบัติที่ดีให้แก่ภูฏานเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการขึ้นทะเบียน GI ให้กับสินค้าชุมชนที่ภูฏานสนใจ เช่น น้ำผึ้ง หน่อไม้ฝรั่ง และถังเช่า เป็นต้น เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้า
  • ด้านท่องเที่ยวไทยและภูฏานได้มีการต่ออายุ MOU ว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และกรมการท่องเที่ยวภูฏานภายใต้แนวคิด “2 ราชอาณาจักร 1 จุดหมายปลายทาง” ส่งเสริมการขยายตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศให้มากขึ้น เพิ่มโอกาสการลงทุนของนักธุรกิจไทยในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ได้แก่ โรงแรม ธุรกิจสปา และร้านอาหารไทย
  • โครงการ Smartcity ที่ภูฏานได้ประกาศเปิดโครงการก่อสร้าง Gelephu Mindfulness City ซึ่งจะเป็นเมืองอัจฉริยะแห่งแรกของภูฏาน ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ ติดกับประเทศอินเดีย โดยมีแผนเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและเป็นประตูสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนภูฏาน มีแผนที่จะสร้างท่าอากาศยานระหว่างประเทศแห่งใหม่ โรงงานผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ และเส้นทางคมนาคม ซึ่งเป็นโอกาสให้นักลงทุนไทยที่มีศักยภาพและความสนใจในภูฏานเข้ามาลงทุนในโครงการดังกล่าว

ไทย-ภูฏาน เปิดเจรจา FTA ดันขยายมูลค่าการค้า 120 ล้านดอลลาร์ ในปี 68

นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์ โดยสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ SACIT ของไทย ได้ร่วมลงนาม MOU ว่าด้วยการส่งเสริมงานศิลปหัตถกรรมร่วมกับกรมการสื่อสาร อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งจะเป็นกลไกที่จะช่วยให้ไทยและภูฏาน ส่งเสริมงานฝีมือของทั้งสองประเทศ โดยสองฝ่ายจะกำหนดแนวทางการแลกเปลี่ยนความรู้ การสร้างศักยภาพ และสร้างเป้าหมายการพัฒนาเพื่อส่งเสริมงานฝีมือของทั้งสองฝ่าย ภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือเป็นระยะเวลา 5 ปี

ไทย-ภูฏาน เปิดเจรจา FTA ดันขยายมูลค่าการค้า 120 ล้านดอลลาร์ ในปี 68

 

 

นายนภินทร กล่าวอีกว่า ตนได้เชิญภูฏานเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในประเทศไทย อาทิ งาน THAIFEX Anuga Asia 2024 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้านานาชาติด้านอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ในวันที่ 28 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2567 และงาน Bangkok Gems & Jewelry Fair 2024 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่ใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของเอเชีย ในวันที่ 9-13 กันยายน 2567 โดยผมได้มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงธากา บังกลาเทศ ซึ่งมีเขตอาณาครอบคลุมภูฏานช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักธุรกิจภูฏานที่สนใจ

ทั้งนี้ ได้มีกล่าวเปิดการเจรจาตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างไทยกับภูฏานอย่างเป็นทางการ เพื่อเปิดเสรีทางการค้าจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะกระตุ้นให้เกิดการขยายตัวของการค้าให้บรรลุเป้าหมายที่ 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อีกทั้งการสานต่อปฏิสัมพันธ์ทั้งในระดับรัฐและเอกชนระหว่างกันจะเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการค้า

“ผมมีความตั้งใจและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเปิดการเจรจา FTA ไทย ภูฏาน โดยขอเร่งรัดให้มีการเจรจา FTA ดังกล่าว เพื่อให้มีผลโดยเร็ว  ซึ่งการเจรจารอบแรก ภูฏานจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2567 ณ กรุงทิมพู ราชอาณาจักรภูฏาน โดยมีอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เป็นประธานฝ่ายไทยร่วมเจรจา และในส่วนการประชุม JTC ครั้งต่อไป (ครั้งที่ 6) ไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมโดยขอเชิญรัฐมนตรีภูฏานเยือนประเทศไทยในปีหน้า” นายนภินทร กล่าว

ปัจจุบัน ประเทศภูฏานเป็นคู่ค้าอันดับที่ 7 ของไทยในภูมิภาคเอเชียใต้ รองจากอินเดีย ปากีสถาน บังกลาเทศ ศรีลังกา มัลดีฟส์ และเนปาล ตามลำดับ สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปภูฏาน เช่น

  • เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และชิ้นส่วน
  • รถกระบะ
  • บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
  • ขนมปังกรอบ
  • เส้นพาสต้า
  • ผลไม้อบแห้ง
  • หม้อหุงข้าว
  • ถ้วยชามเซรามิก
  • แชมพู
  • ยางรถยนต์ เป็นต้น

สินค้านำเข้าสำคัญของไทยจากภูฏาน เช่น

  • ยางสำหรับอากาศยาน
  • ถังเช่า
  • ผลิตภัณฑ์ทองแดง
  • สารเคมีที่ใช่ในห้องปฏิบัติการ เป็นต้น

ไทย-ภูฏาน เปิดเจรจา FTA ดันขยายมูลค่าการค้า 120 ล้านดอลลาร์ ในปี 68