คลังเตรียมชงมาตรการกระตุ้นเข้า “ครม.เศรษฐกิจ” หลัง GDP โตต่ำสุดในอาเซียน

24 พ.ค. 2567 | 04:03 น.
อัปเดตล่าสุด :24 พ.ค. 2567 | 04:25 น.

คลังเตรียมชง “ครม.เศรษฐกิจ” ออกมาตรการใหม่กระตุ้นเศรษฐกิจ 27 พ.ค.นี้ หลังจีดีพีไตรมาสแรกต่ำสุดในภูมิภาคอาเซียน เชื่อทุกหน่วยงานเศรษฐกิจเตรียมการบ้านเสนอที่ประชุม

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างพิจารณามาตรการใหม่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยก่อนหน้านี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มีการเรียกมาหารือถึงสถานการณ์เศรษฐกิจแล้ว 2-3 ครั้ง โดยเฉพาะเรื่องตัวเลขทางเศรษฐกิจ

ซึ่งที่ผ่านมา ทางรัฐบาลก็มีการออกมาตรกระตุ้นไปหนักมาก แต่ตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาสที่ 1 ปี 2567 ซึ่งออกมาขยายตัว 1.5% แม้สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ก็ยังต่ำสุดเมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาคอาเซียน

ทั้งนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้นัดประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจ ในวันที่ 27 พ.ค.นี้ รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงเศรษฐกิจ รวมถึงหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง จะมีการหารือร่วมกันเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจ และการหามาตรการใหม่ เพื่อนำการกระตุ้นเศรษฐกิจ

“ในการประชุมครม.เศรษฐกิจครั้งนี้ เป็นการพูดคุยอย่างเป็นทางการครั้งแรก คงจะพูดคุยกันว่ามีปัญหา มีวิกฤตอะไรบ้าง และดูว่ามีภาคส่วนไหนที่จำเป็นต้องดูแล ออกกลไกมาตรการ และแบ่งว่าหน่วยงานไหนจะรับผิดชอบ โดยกระทรวงการคลัง ก็มีการทำการบ้านไว้แล้วเช่นกัน และพร้อมที่จะนำเสนอในครม.เศรษฐกิจ เชื่อว่าทุกๆ หน่วยงานก็เตรียมพร้อมเช่นกัน” 

สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 ได้รับผลจากภาคการส่งออก และภาคอุตสาหกรรมที่หดตัว รวมทั้ง งบประมาณปี 2567 ที่ออกมาล่าช้า แต่สิ่งที่ช่วยพยุงเศรษฐกิจอยู่ คือ ภาคการบริการ และการท่องเที่ยว อย่างไรก็ดี เชื่อว่าตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาสที่ 2 ปี 2567 จะดีกว่าไตรมาสที่ผ่านมา เพราะเป็นช่วงที่เทศกาลสงกรานต์ โดยรัฐบาลกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างเต็มกำลัง

ส่วนเรื่องของงบลงทุนภาครัฐยังหดตัวนั้น เนื่องจากงบประมาณ 2567 เพิ่งออกมาได้ 2-3 สัปดาห์ จึงยังไม่มีผลกับเศรษฐกิจ เนื่องจากต้องใช้เวลาในการจัดซื้อจัดจ้าง และผูกพันงบประมาณ แต่จากที่ฟังรายงานจากกรมบัญชีกลาง การผูกพันงบประมาณ 2567 เป็นไปได้ด้วยดี การเดินหน้าเบิกจ่ายเป็นไปตามกรอบ  ทุกหน่วยงานรัฐมีการเตรียมความพร้อม โดยก่อนหน้า กรมบัญชีกลางมีมาตรการให้หน่วยงานรัฐ เตรียมการจัดซื้อจัดจ้างไว้ล่วงหน้า