นางวรวรรณ ชิตอรุณ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า สศอ. ได้ดำเนินการร่ววมกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ของบสนับสนุนประมาณ 2,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี (SMEs)
ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างสอบถามสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย รวมถึงผู้ประกอบการว่าหากมีเงินเข้ามาแล้วจะนำไปทำอะไร สิ่งที่พบ คือผู้ประกอบการก็ยังไม่รู้ว่าควรจะปรับปรุงและพัฒนาตรงไหนก่อน
ทั้งนี้ ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนเมษายน 2567 กลับมาเป็นบวกกว่า 3% หลังติดลบต่อเนื่องมา 18 เดือน โดยปัจจัยหลักมาจากผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องปรับอากาศและปิโตรเคมีที่เป็นบวก แต่กลุ่มยานยนต์ยังคงติดลบ
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจในภาพรวมก็ยังมีปัญหาทั้งภายในประเทศเองและภายนอกประเทศ อีกทั้งมูลค่าอุตสาหกรรมที่ยังต่ำ แม้สินค้าจะยังพอขายได้แต่มูลค่าไม่สูง
ทั้งนี้ มองว่าอุตสาหกรรมที่จะไปได้ดีในอนาคตอย่างเห็นได้ชัดคือ อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าหรืออีวี (EV) แต่ปัจจุบันยังไปไม่ได้หมด ส่วนอุตสาหกรรมเกษตรก็ยังคงเป็นไปตามฤดูกาล
"การส่งเสริมในด้านของการทำชิ้นส่วนอีวีนั้น ต้องยอมรับว่าปริมาณการผลิตยังไม่เยอะ สิ่งที่คิดคือที่นำเข้ามา 7 หมื่นคัน โดยปีนี้ต้องผลิตตามสัดส่วนที่รับการสนับสนุนมาตรการอีวี3.0 ในเบื่องต้น 7 หมื่นคัน ซึ่งจะต้องหาตลาดด้วย"