นางสาวอธิกา บุญรอดชู ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดสรรเงินทุนและการลงทุน บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส ๅ/67 ว่า มีรายได้รวมจากกลุ่มบริษัทเสนาฯ และบริษัทย่อย อยู่ที่ 741 ล้านบาท มีผลกำไรสุทธิ 119 ล้านบาท
ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายของบริษัท ท่ามกลางสถานการณ์ที่ตลาดอสังหาฯ ชะลอตัว ได้รับผลกระทบและปัญหาจากปัจจัยต่างๆ โดยกำไรสุทธิไตรมาสแรกเพิ่มขึ้นถึง 31% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่ความสามารถในการทำอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 4.6%
โดยผลการเติบโตมาจากรายได้หลักของบริษัท ประกอบด้วย 4 กลุ่มธุรกิจ คือ กลุ่มแรก ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ผลการดำเนินงานเป็นไปตามแผน โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าหลักของเสนา คือบ้านและคอนโดในระดับราคา 1 – 3 ล้านบาท ที่มีการเติบโตสวนกระแสตลาด ส่งผลถึงยอดขายที่ดีในกลุ่มนี้ ซึ่งทางเสนาฯ พร้อมขยายโครงการตามแผนเพื่อรองรับตลาด
ด้าน Backlog หรือยอดขายรอรับรู้รายได้ มีมูลค่าประมาณ 5,164 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ปีนี้ 3,749 ล้านบาท ขณะที่สินค้าคงเหลือขายมีอีก 54,545 ล้านบาท พร้อมขายแล้วโอนรับรู้รายได้ทันที 14,427 ล้านบาท
สำหรับกลุ่มธุรกิจบริหารโครงการและบริการอื่นมีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 20.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่กลุ่มธุรกิจด้านพลังงานสะอาดและกลุ่มธุรกิจใหม่ อย่างธุรกิจจำหน่ายรถยนต์ มีรายได้ในทิศทางบวกและเป็นไปตามแผน
อย่างไรก็ตามในสถานการณ์เศรษฐกิจที่ผันผวน เสนาฯ ยังคงเพิ่มประสิทธิภาพของการบริหารจัดการต้นทุนควบคู่กันไปด้วย โดยในไตรมาสที่ผ่านมามีต้นทุนลดลงถึง 25% จึงทำให้ผลการดำเนินงานกลุ่มบริษัทเสนาฯ ในไตรมาสแรกเป็นไปตามเป้าหมาย
นางสาวอธิกา กล่าวเพิ่มเติมว่า อีกหนึ่งสิ่งสำคัญในการดำเนินธุรกิจของเสนาฯ ตามนโยบาย Sustainable Financial คือการบริหารความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัทให้ดีอยู่เสมอ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน (Net Debt to Equity Ratio) ต่ำมากในกลุ่มบริษัทอสังหาฯ ด้วยกันที่ 1.18 เท่านั้น และยังสะท้อนประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ดี จากการที่เสนาฯ เป็นบริษัทที่จ่ายปันผลอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ล่าสุดกำหนดจ่ายเงินปันผลจากการดำเนินงานปี 2566 วันที่ 24 พฤษภาคมนี้ ในอัตราหุ้นละ 0.234214 บาท
นอกจากนี้ ในไตรมาส 1/67 หนึ่งตัวช่วยสำคัญคือการเปิดตัวผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินใหม่ คือ “เงินสดใจดี” และ “LivNex” เช่าออมบ้าน ที่นับว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ครั้งแรกของวงการอสังหาฯ โดยผลิตภัณฑ์ทางการเงินแบบใหม่นี้จะช่วยแก้ปัญหาลูกค้าที่กู้ไม่ผ่านให้สามารถเป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น ตามความมุ่งมั่นที่จะทำให้ทุกคนมีโอกาสเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยคุณภาพ
อย่างไรก็ดี แผนการดำเนินงานช่วงไตรมาส 2 ยังคงจะขยายธุรกิจพลังงานสะอาด โดย บริษัท เสนา กรีน เอนเนอร์ยี่ จำกัด ถือเป็นธุรกิจที่อยู่ในเทรนด์ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเปิดตัวโชว์รูมมาตรฐาน ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ NETA by SENA GREEN AUTO อย่างเป็นทางการ
และยังขยายธุรกิจ EV Charger สู่การเป็นตัวแทนจำหน่ายครบวงจร ขณะที่บริษัทในเครืออย่าง บมจ. เซ็น เอกซ์ หรือ Sen X ก็มีผลการดำเนินงานที่ดีเช่นกัน และยังเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยส่งเสริมให้ภาพรวมของเสนาแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจด้านเซอร์วิส และบริการต่างๆ อาทิ บริการนิติบุคคลครบวงจร ( ELITE Service), บริหารจัดการโครงการ, บริการหลังการขายและงานซ่อมบำรุง, ธุรกิจนายหน้าอสังหาฯ, ธุรกิจด้านไอทีและเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัย ส่วนโครงการบ้านใน Luxury Segment มีความคืบหน้าตามแผนงานที่พร้อมเปิดตัวช่วงปลายปีนี้
ทั้งนี้ ภาพรวมของเสนาฯ ปี 2567 ยังคงเดินหน้าตามแผน เปิดตัว 17 โครงการ แบ่งเป็น แนวราบ 5 โครงการ และคอนโดมิเนียม 12 โครงการ มูลค่ารวม 28,000 ล้านบาท