เศรษฐา สั่งตำรวจปราบด่วน นายทุนปล่อยกู้-แก๊งค์ทวงหนี้นอกระบบ

30 พ.ค. 2567 | 07:20 น.

นายกฯ “เศรษฐา ทวีสิน” เรียกประชุมด่วนแก้ “หนี้นอกระบบ” สั่งตำรวจนครบาล ปรายนายทุน ผู้มีอิทธิพล เจ้าหนี้เงินกู้ และจับแก๊งค์หมวกกันน็อคทวงหนี้โหด ประสาน กทม.ตั้ง “ตลาดนัดแก้หนี้” ภายใน 2 สัปดาห์

วันนี้ (30 พฤษภาคม 2567) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมด่วนเกี่ยวกับการแก้ไข หนี้นอกระบบ ปัญหายาเสพติด และการพนันออนไลน์ โดยมีนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี พลตำรวจโท ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 - 9 เข้าร่วมประชุม 

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ทางตำรวจนครบาล ช่วยแก้ไขหนี้นอกระบบ โดยให้เดินหน้าเร่งดำเนินการจับกุมนายทุน ผู้มีอิทธิพล และเจ้าหนี้ที่ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยสูงเกินกฎหมายกำหนด รวมถึงดำเนินการจับกุมแก๊งค์หมวกกันน็อคทวงหนี้โหดด้วย รวมทั้งขอให้หน่วยงานของรัฐ และสถาบันการเงินของรัฐเข้ามามีส่วนร่วมในการปล่อยสินเชื่อให้ลูกหนี้เข้าถึงสินเชื่อได้ถูกต้องตามกฎหมาย

 

นายกรัฐมนตรี ประชุมด่วนเกี่ยวกับการแก้ไขหนี้นอกระบบ ปัญหายาเสพติด และการพนันออนไลน์

พร้อมกันนี้ ยังสั่งการให้ตำรวจนครบาลจัดโครงการ “ตลาดนัดแก้หนี้” โดยนายกฯ ระบุปัญหาหนี้นอกระบบในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีปัญหาไม่ต่างกับพื้นที่ต่างจังหวัด ขอให้ตำรวจนครบาลร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกรุงเทพมหานคร จัดโครงการตลาดนัดแก้หนี้ตามเขตต่าง ๆ ด้วย

ทั้งนี้นายกฯ ได้เน้นย้ำว่า การทำงานเป็นเรื่องที่ยาก เหมือนเข็นครกขึ้นภูเขา แต่ทุกคนต้องเดินหน้าแก้ไขปัญหา โดยให้ตำรวจนครบาลจัดโครงการตลาดนัดแก้หนี้ ในเขตต่าง ๆ ของกรุงเทพมหานคร ภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์นับจากนี้ ซึ่งนายกฯ จะลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าด้วยตนเอง

 

นายกรัฐมนตรี ประชุมด่วนแก้ไขหนี้นอกระบบ ปัญหายาเสพติด และการพนันออนไลน์

ขณะที่เรื่องการพนันออนไลน์ และเหยื่อแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ นายกฯ ระบุว่า จากการลงพื้นที่สถานีตำรวจต่าง ๆ ได้พบว่ามีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ โดยนายกฯ กำชับให้ตำรวจนครบาลดำเนินการอย่างจริงจังกับมิจฉาชีพแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ รวมถึงเว็บพนันออนไลน์ต่าง ๆ ขอให้เร่งดำเนินการอย่างจริงจัง ไม่ใช่รับเรื่องลงบันทึกประจำวันแล้วปล่อยให้เรื่องเงียบ ไม่ติดตามความคืบหน้า

ส่วนเรื่องยาเสพติด นายกฯ เห็นว่า จากสถิติการจับกุมพบว่า สามารถจับกุมผู้ค้าและผู้เสพยาบ้าเพิ่มขึ้นมากถึง 4 เท่า  แต่ราคายาบ้ายังเท่าเดิม แสดงให้เห็นว่ายังมีการลักลอบผลิตยาบ้าและมีการลักลอบนำเข้ามาในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก สวนทางกับจำนวนที่สามารถจับกุมได้ ต่อให้ตำรวจสามารถจับกุมผู้ค้าและผู้เสพได้มากเท่าไร แต่ไม่สามารถทำลายแหล่งผลิตยาบ้าและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าประเทศ ก็จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ดั้งนั้นจึงขอให้ตำรวจเพิ่มมาตรการอย่างเข้มข้นจริงจังมากขึ้น โดยเฉพาะในชุมชนแออัดขอให้เร่งลงพื้นที่ โดยนายกฯ ตั้งเป้าภายใน 1 - 2 เดือนนี้ จะสามารถจับกุมและทลายเครือข่ายยาเสพติดให้เห็นผลอย่างชัดเจน เพื่อสร้างความสบายใจให้พี่น้องประชาชน

“เชื่อว่าการที่ทำทุกอย่างพร้อมกันในเวลาเดียวกัน ทั้งการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของปัญหาผู้มีรายได้น้อย ทำงานเท่าไรก็ไม่เพียงพอ ทำให้หมดขวัญและกำลังใจ หันไปเสพยา ปล้น และขโมย เรื่องนี้ต้องฝากกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และความมั่นคงทำงานให้มากขึ้น แม้ตอนนี้เราจะอยู่ในช่วงเศรษฐกิจดี ส่วนของฝ่ายความมั่นคงก็ต้องทำงานให้เร็ว ฝากด้วยแล้วกัน” นายก กล่าว