สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครชิคาโก กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ พระทรวงพาณิชย์ รายงานว่า สถานการณ์เศรษฐกิจและภาวะการค้าสหรัฐฯ ประจำเดือนพฤษภาคม 2567 สำนักงานวิเคราะห์เศรษฐกิจ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติแท้จริง (Real GDP) สหรัฐฯ ไตรมาสที่ 1 ปี 2567 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 1.3% โดยแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 1 เป็นผลมาจากการขยายตัวของการ ใช้จ่ายภาคประชาชน การลงทุนระยะยาวสำหรับที่อยู่อาศัย การลงทุนระยะยาวที่ไม่ใช่สำหรับที่อยู่อาศัย และการใช้จ่ายของภาครัฐท้องถิ่น ในขณะที่การลงทุนคงคลังภาคเอกชน และภาคการนำเข้า ส่วนส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติสหรัฐฯ
ขณะที่อัตราการว่างงาน สำนักงานสถิติแรงงานรายงานอัตราการว่างงานสหรัฐฯ ประจำเดือนเมษายน 67 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 3.9% มีจำนวนผู้ว่างงานในระบบเศรษฐกิจทั้งสิ้น 5.6 ล้านคน โดยในช่วงดังกล่าวสหรัฐฯ มีการจ้างงานนอกภาคการเกษตร เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนทั้งสิ้น 175,000 ตำแหน่ง
ส่วนการจ้างงานในอุตสาหกรรมเหมืองแร่และขุดเจาะพลังงาน อุตสาหกรรมการผลิต อุตสาหกรรมค้าส่ง อุตสาหกรรมสารสนเทศ อุตสาหกรรมการเงิน และอุตสาหกรรมเชี่ยวชาญเฉพาะด้านและการบริการทางธุรกิจ และอุตสาหกรรมบริการอื่น ๆ ไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก
ด้านภาวะเงินเฟ้อ รายงานภาวะเงินเฟ้อสหรัฐฯ ประจำเดือนเมษายน 67 มีการปรับตัวลดลงเหลือ 3.4% โดยในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาราคาสินค้าไม่ปรับฤดูกาล กลุ่มสินค้าอื่นๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.6% กลุ่มสินค้าพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.6% และกลุ่มสินค้าอาหารปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.2% ดังนี้
ขณะเดียวกัน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค รายงานผู้บริโภคชาวอเมริกันมีความเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2567 โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดิม 97.5 ในเดือนเมษายน 2567 เป็น 102.0 ในเดือนพฤษภาคม 2567 ดัชนีความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบัน ที่วัดแนวโน้มสภาวะเศรษฐกิจและการจ้างงานในปัจจุบันปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดิม 140.6 ในเดือนเมษายน 2567 เป็น 143.1 ในเดือนพฤษภาคม 2567
และดัชนีความคาดหวังของผู้บริโภค ซึ่งวัดจากมุมมองของผู้บริโภคต่อสถานการณ์ทางด้านรายได้ การดำเนินกิจการ และการจ้างงานในตลาดแรงงานในระยะสั้นปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดิม 68.8 ในเดือนเมษายน 2567 เป็น 74.6 ในเดือนพฤษภาคม 2567 ทั้งนี้ ดัชนีความคาดหวังของผู้บริโภคที่อยู่ในระดับต่ำกว่า 80.0 แสดงให้เห็นถึงสัญญาณความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ภายในระยะเวลา 12 เดือนข้างหน้า
ปัจจัยด้านสภาวะการจ้างงานในสหรัฐฯ ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมามีส่วนสำคัญช่วยพะยุงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชาวอเมริกันในตลาด ผู้บริโภคชาวอเมริกันมีความเชื่อมั่นต่อภาคการจ้างงานและรายได้ในอนาคตดีขึ้น ผู้บริโภคเริ่มมีแผนกลับไปซื้อสินค้าขนาดใหญ่ เช่น รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ รวมถึงโทรศัพท์สมาร์ทโฟนมากขึ้นในอนาคต
ภาวะการค้าปลีกของสหรัฐฯ รายงานภาวะการค้าปลีกและ การบริการด้านอาหารประจำเดือนล่วงหน้า ประจำเดือนเมษายน 2567 สามารถสรุปได้ ดังนี้
กลุ่มสินค้าและบริการที่มียอดค้าปลีกขยายตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ สินค้าน้ำมันเชื้อเพลิง ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.1% สินค้าเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.6% สินค้าครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.5% สินค้าอาหารและเครื่องดื่ม ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.8% สินค้าวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.5% และ การบริการร้านอาหารและเครื่องดื่ม ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% ตามลำดับ
กลุ่มสินค้าและบริการที่มียอดค้าปลีกหดตัวลง ได้แก่ สินค้าอุปกรณ์กีฬา ปรับตัวลดลง 0.9% สินค้ารถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ ปรับตัวลดลง 0.8% สินค้าเพื่อเพื่อสุขภาพและสุขอนามัยส่วนบุคคล ปรับตัวลดลง 0.6% สินค้าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน ปรับตัวลดลง 0.5% สินค้าปลีกผ่านช่องทางร้านค้าอื่นๆ ปรับตัวลดลง 0.4% และสินค้าปลีกทั่วไป ปรับตัวลดลง 0.3% ตามลำดับ
ภาวะการค้าระหว่างประเทศ สำนักงานสถิติสหรัฐฯ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานสถิติดุลการค้า (ส่งออก – นำเข้า) สหรัฐฯ ประจำเดือนมีนาคม 2567 (ข้อมูลล่าสุด) สรุปได้ ดังนี้
การส่งออกสินค้า มูลค่า 171,263 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 5,123 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือลดลง 90% เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2567
การส่งออกบริการมูลค่า 86,357 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 185 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือลดลง 21% เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2567 โดยกลุ่มสินค้าและบริการที่สหรัฐฯ มีมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ น้ำมันดิบ
สหรัฐฯ มีมูลค่าการนำเข้าสินค้าและบริการในเดือนมีนาคม 2567 เป็นมูลค่า 326,992 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 5,393 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือลดลง 1.62% เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2567 แบ่งเป็น
ภาวะการค้าระหว่างสหรัฐฯ – ไทย
ในเดือนมีนาคม 2567 สหรัฐฯ และไทยมีมูลค่าการค้าสุทธิทั้งสิ้น 5,061.17 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 4.61% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา โดยสหรัฐฯ มีดุลการค้า ขาดดุล กับไทยเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3,319.21 ล้านดอลลาร์สหรัฐลดลง 2.91% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา
สหรัฐฯ นำเข้าจากไทย มูลค่าทั้งสิ้น 5,061.17 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 4.61% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา โดยสินค้าหลักนำเข้าจากไทย ได้แก่
สหรัฐฯ ส่งออกไปไทย มูลค่าทั้งสิ้น 1,741.96 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 74% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา โดยสินค้าหลักส่งออกไปไทย ได้แก่