วันที่ 10 มิถุนายน 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจ ครั้งที่ 2/2567 เพื่อติดตามความคืบหน้าข้อสั่งการในการประชุมครม.เศรษฐกิจ ครั้งที่ 1 เมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมา รวมถึงการติดตามตัวเลขสภาวะเศรษฐกิจ
โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง
รวมถึงหัวหน้าส่วนราชการระดับสูง นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ และนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ม.ล.ชโยทิต กฤดากร ประธานผู้แทนการค้าไทย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสักนายกรัฐมนตรี
นายพิชัย กล่าวรายงานความคืบหน้าสภาวะเศรษฐกิจในที่ประชุมครม.เศรษฐกิจ เป็นคนแรก ว่า ความคืบหน้าเป็นไปด้วยดี คือ การกำหนดเป้าหมายเติบโตทางเศรษฐกิจของปี 2567 ซึ่งเราตั้งเป้าหมายตัวเลขอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) สศช. ตั้งค่ากลางไว้ที่ 2.5 % ขณะที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ตั้งไว้ 2.4 %
นายพิชัยกล่าวว่า ตัวเลขที่มีส่วนสำคัญที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่เร็วที่สุด คือ การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมาย จำนวน 8.5 แสนล้านบาท ซึ่ง ณ วันที่ 7 มิถุนายน 67 เบิกจ่ายได้แล้ว 38.6 % สูงกว่าคาดการณ์ที่ตั้งเป้าไว้ 20 % ซึ่งจะเข้าสู่ระบบทันที ในส่วนรอเซ็นสัญญาพร้อมที่จะเบิกจ่ายงบลงทุนได้ทันทีส่งผลให้ตัวเลขเบิกจ่ายถึง 50.1 % ซึ่งอีก 50 % ยังเหลือเวลาอีก 4-5 เดือนก่อนจะสิ้นปีงบประมาณ 67 ในวันที่ 30 กันยายน 67
“การที่เราจะได้จีดีพี 2.5 % เราคาดการณ์ว่า การเบิกจ่ายโดยดูจากอดีตประมาณ 60 – 70 % ดังนั้น เราตั้งเป้าไว้ว่าอย่างน้อย ๆ ต้องได้ 70 % จึงต้องเร่งรัดการเบิกจ่ายให้ได้”นายพิชัยกล่าว