นายเบญจรงค์ สุวรรณคีรี รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) เปิดเผยในงานเสวนา “Smart SME 2024: Empowering the Next Wave” ซึ่งจัดโดยโพสทูเดย์ ว่า การส่งออกถือเป็นกุญแจสำคัญในการยกระดับรายได้ของประเทศ
อย่างไรก็ดี ตลาดส่งออกยังมีผู้เล่นหลักเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่มากกว่ารายย่อย ซึ่งผู้ประกอบการ SMEs ส่วนมากยังเข้าไม่ถึงกลไกที่จะพาพวกเขาให้ออกไปสู่ตลาดต่างประเทศ
สำหรับโอกาสที่ผู้ประกอบการจะมีมากขึ้นเมื่อขยายตลาดไปต่างประเทศมีหลายด้าน ได้แก่ การเข้าถึงตลาดและกลุ่มลูกค้าที่ใหญ่ขึ้น มีความหลายหลายมากขึ้น อาทิ กลุ่มผู้มีรายได้สูง ตลาดฮาลาล กลุ่มสูงวัย
นอกจากนี้ การก้าวสู่การเป็นส่งออกยังจะทำให้มีผลประกอบการที่ดีกว่า หากสามารถอยู่รอดได้ก็จะทำให้บริษัทมียอดขายและผลกำไรมากกว่าตลาดในประเทศถึง 3 เท่า
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการ SMEs ไทยยังต้องเผชิญความท้าทายอยู่มากเนื่องจากส่วนมากยังคงขาดความรู้เกี่ยวกับการส่งออก ความเข้าใจในตลาด ขาดแหล่งเงินทุน และไม่มีการป้องกันความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยน
ส่วนกลุ่มที่มีการส่งออกอยู่แล้วก็ยังมีความท้าทายและการแข่งขันที่สูงขึ้น แต่ยังขาดการพัฒนาสินค้านวัตกรรม หรือสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูง
ซึ่งมี SME ไม่ถึง 1% ที่มีการลงทุนในการวิจัยและพัฒนา นอกจากนี้โปรดักส์บางตัวก็ยังไม่ตอบโจทย์เทรนด์โลก อาทิ การตรวจสอบเรื่องคาร์บอนฟุตปริ้นส์
EXIM BANK ซึ่งเป็นธนาคารของรัฐ พร้อมสนับสนุนนโยบายของรัฐ และสนับสนุน SME ให้พร้อมก้าวสู่เวทีโลก ด้วยการเติมความรู้ โอกาส และทุน ไปจนถึงการเชื่อมโยงเครือข่ายพันธมิตร
นายเบญจรงค์ กลาวอีกว่า ขณะนี้ธนาคารมีการส่งเสริมด้านสินเชื่อสีเขียว และกำลังทำอยู่ระหว่างการพิจารณาสินเชื่อ IGNITE THAILAND เพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนสภาพคล่องในหลายอุตสาหกรรมให้ขยายตัวเพื่อผลักดันเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวต่อไปได้ ตามนโนยบายรัฐ เช่น อุตสาหกรรมท่องเที่ยว เป็นต้น