นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าประจำสัปดาห์การดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางการเงินเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของกระทรวงการคลัง ว่า รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในการให้ความช่วยเหลือทางการเงินผ่านมาตรการสินเชื่อต่าง ๆ
ทั้งนี้ ได้แก่ โครงการสินเชื่อธนาคารประชาชน สินเชื่อเพื่อชำระหนี้สินนอกระบบ และสินเชื่อกองทุนหมุนเวียนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ยากจน รวมถึงมาตรการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือและรองรับลูกหนี้นอกระบบที่ลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ (ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566)
โดยผลการดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางการเงินของสถาบันการเงินเฉพาะกิจทั้งสองแห่ง ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 – 14 มิถุนายน 2567 มีประชาชนที่เป็นหนี้นอกระบบได้รับอนุมัติให้ความช่วยเหลือทางการเงินไปแล้วจำนวน 12,753 ราย ยอดอนุมัติรวมทั้งสิ้น 605.07 ล้านบาท
“จำนวนประชาชนที่ได้รับความช่วยเหลือเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน (7 มิถุนายน 2567) จำนวน 478 ราย หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.89 และเป็นยอดอนุมัติที่เพิ่มขึ้น 17.17 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 2.92”
นอกจากนี้ รัฐบาลได้จัดให้มีกิจกรรม “ตลาดนัดแก้หนี้” ในเขตกรุงเทพมหานคร ตลอดเดือนมิถุนายน 2567 โดยเริ่มจัดครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2567 เพื่อให้ประชาชนมาลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ และเปิดโอกาสให้เจ้าหนี้นอกระบบและลูกหนี้นอกระบบได้มาไกล่เกลี่ยประนอมหนี้
โดยสถาบันการเงินเฉพาะกิจทั้งสองแห่งได้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว เพื่อให้คำแนะนำปรึกษา ได้แก่ การปรับโครงสร้างหนี้ การให้คำแนะนำปรึกษาด้านการเงิน การฝึกอาชีพหรือเพิ่มทักษะ การฟื้นฟูศักยภาพการหารายได้ รวมถึงนำเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อให้แก่ลูกหนี้นอกระบบที่ต้องการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเป็นรูปธรรมและมีความต่อเนื่อง สามารถทำให้ลูกหนี้นอกระบบเข้ามาเป็นลูกหนี้ในระบบและหลุดพ้นจากวงจรการเป็นหนี้สินล้นพ้นตัว
สำหรับเจ้าหนี้นอกระบบ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายที่ต้องการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างยั่งยืนตามที่กล่าวข้างต้น กระทรวงการคลังได้ส่งเสริมให้มีการประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) เพื่อเป็นช่องทางให้เจ้าหนี้นอกระบบสามารถเข้ามาประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบให้แก่ประชาชนรายย่อย
ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2567 มีนิติบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์และเปิดดำเนินการแล้วสะสมสุทธิ 1,143 ราย ใน 75 จังหวัด และ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2567 มีการอนุมัติสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ให้กับประชาชนรายย่อยสะสมทั้งสิ้น 4,241,350 บัญชี รวมเป็นวงเงิน 41,015.45 ล้านบาท ซึ่งประชาชนที่สนใจขอกู้สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์สามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ทั้ง 75 จังหวัด ได้ที่ www.1359.go.th