นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงสถานการณ์ดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันนี้ (17 มิ.ย.) ที่หลุด 1,300 จุด ว่า สิ่งสำคัญของตลาดทุนคือเรื่องของการสร้าง Trust and Confidence อย่างไรก็ตามภาวะการทางการเมืองในขณะนี้มีหลายเรื่องที่เข้ามากระทบพร้อมกัน ซึ่งเชื่อมั่นว่าอีกไม่กี่วันสถานการณ์ก็จะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดี
ขณะเดียวกันกระทรวงการคลังได้เตรียมกลไกที่จะเข้าไปช่วยสนับสนุนตลาดทุน โดยการสร้างกลไกที่เหมาะสมในการสนับสนุนการลงทุน ซึ่ง รมว.คลัง เป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง ทั้งเรื่องการตั้งกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (Long Term Equity Fund: LTF) และกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) ซึ่งยังอยู่ระหว่างการศึกษาและพิจารณาก่อนจะชงเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
"ในเดือนนี้มีปัจจัยทางการเมืองหลายอย่างที่เข้ามาพร้อมกัน ซึ่งอาจทำให้เกิดความลังเล และความสงสัยในหมู่นักลงทุนระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวจะเป็นเพียงปัจจัยระยะสั้น และเมื่อสถานการณ์คลี่คลายและมีความชัดเจน ก็เชื่อว่าจะกลับมาอยู่ในสถานะปกติ"
ทั้งนี้ รัฐบาลไม่เพียงแต่จะปรับพื้นฐานระยะสั้นในเรื่องการค้าการลงทุน แต่จะมีการพัฒนาทั้งระยะกลางและระยะยาว อาทิ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาศักยภาพแรงงาน แผนการ Up-Skill และ Re-Skill แรงงานที่ชัดเจน ซึ่งเหล่านี้จะเป็นการสร้างความสามารถในการแข่งขันในระยะยาวและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนในทั้งในและต่างประเทศต่อไปได้
ส่วนประเด็นข้อครหาในการแต่งตั้งบุคลากรทางการเมืองของรัฐบาล ยืนยันว่ารัฐบาลมีความโปร่งใส สำหรับเรื่องการแต่งตั้งนายธันว์ วุฒิธรรม เป็นผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง [ปฏิบัติหน้าที่เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์)] ไม่ทราบเรื่องคดีความมาก่อน และทราบภายหลังการแต่งตั้งแล้วจากข่าว โดยนายธันว์ได้ทำงานในคณะทำงานมาระยะหนึ่งโดยไม่เคยมีพฤติกรรมเสื่อมเสียหรือผิดกฎหมาย
"ผมรับผิดชอบเต็มที่ และยอมรับว่าพลาด และมีการแก้ไขทันที โดยยืนยันว่ากระบวนการทำงานที่ผ่านมาไม่มีการมอบหมายงานให้บุคคลดังกล่าวเข้าไปแทรกแซง"