"ส.อ.ท." ชี้มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ทุบโรงแรมเจ๊ง เตือนห้ามขายที่ดินเด็ดขาด

22 มิ.ย. 2567 | 05:56 น.
อัปเดตล่าสุด :22 มิ.ย. 2567 | 05:56 น.

"ส.อ.ท." ชี้มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ทุบโรงแรมเจ๊ง เตือนห้ามขายที่ดินเด็ดขาด ระบุคอนโดปัจจุบันที่ถือหุ้นไม่เกิน 49% มีต่างชาติถือหุ้นมากกว่าคนไทย ในคอนโดหลายที่ผ่านนอมินี

จากกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี สั่งให้กระทรวงมหาดไทยเร่งศึกษามาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ทบทวนหลักเกณฑ์-กฎหมายให้สิทธิต่างชาติถือกรรมสิทธิ์ห้องชุด จากเดิมไม่เกิน 49% เป็นไม่เกิน 75% เช่าได้ไม่เกิน 99 ปี

ล่าสุดนายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ให้ความเห็นเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าวว่า เจตนาของภาครัฐ คือ ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านอสังหาริมทรัพย์ แต่ควรมีข้อควรคำนึง ประกอบด้วย 

  • คอนโดตอนนี้ (ถือหุ้น ไม่เกิน 49%)ก็ มีต่างชาติถือหุ้น มากกว่าคนไทย ใน Condo หลายที่แล้ว โดยการผ่านนอมินี (nominees) 
  • ภาครัฐต้องมีการบังคับใช้กฏหมายให้เข้มงวด โปร่งใสเพื่อควบคุมไม่ให้คอนโดที่ควรจะเพื่ออยู่อาศัยระยะยาว  ไม่ให้มีการค้าแบบรายวันแข่งกับโรงแรม ไม่ใช่ช่วยกันซื้อแล้วมาปล่อยเช่า ผิดกฎหมายรายวัน เหมือนคอนโดหลายแห่ง ที่ทำกันในปัจจุบัน โดยโรงแรมมีขั้นตอนการขออนุญาต​ ยากกว่า ,ค่าไฟฟ้า แพงกว่าคอนโด เพราะคอนแยกมิเตอร์ในแต่ละห้อง ขณะที่โรงแรมเป็นมิเตอร์รวม เจอค่าไฟฟ้าอัตราก้าวหน้าจึงแพงกว่า หากมาเจอโมเดลต่างชาติครอบคอนโดแบบนี้โรงแรมจะฟุบยาว ภาษีก็ไม่จ่ายแบบโรงแรม ,ความปลอดภัย หรือ Security ก็น้อย ฯลฯ ต้นทุน ต่อห้อง ต่อวัน โรงแรม จึงสูงกว่า
  • ยังต้องคำนึงถึงทัวร์ต่างชาติที่มาใช้บริการจากคอนโดที่มีเจ้าของเป็นชาติเดียวกัน สุดท้ายโรงแรมในไทยก็ไม่ได้ประโยชน์จากค่าที่พักของทัวร์ต่างชาติเหล่านี้
     
  • การกำหนดสิทธิ์ในการโหวตยังไง 49% ก็ชนะ รายย่อยที่ถือได้เต็มที่ 25%เพราะ อีก 26% ของต่างชาติต่อให้งดออกเสียงก็ไม่มีความหมาย ควรต้องหาทางด้อยสิทธิ์ ในการโหวตของต่างชาติให้รัดกุม
  • ห้ามขายที่ดิน ให้ต่างชาติโดยเด็ดขาดด้วยทุน และอำนาจซื้อที่มากมายเหนือคนไทย