นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงฯได้ลงพื้นที่ตรวจโครงข่ายคมนาคมจังหวัดชัยภูมิ ในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ พื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างนั้น
ได้ให้นโยบายในการแก้ไขปัญหา การคมนาคมขนส่งทางบก โดยเฉพาะเส้นทางสายหลักที่ยังเป็นขนาด 2 ช่องจราจร ซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาให้เป็น 4 ช่องจราจร เพื่อรองรับปริมาณจราจรที่สูงขึ้น การขยายตัวของเขตชุมชน การเดินทางขนส่งสินค้าและการท่องเที่ยวของจังหวัดชัยภูมิ
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ยังได้สั่งการให้กรมทางหลวงเร่งศึกษาความเป็นไปได้โครงการก่อสร้างทางแนวใหม่ หรือถนนวงแหวนรอบเมืองชัยภูมิ รอบที่ 2 ระยะทาง 52 กิโลเมตร ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องได้รับการก่อสร้างวงแหวนรอบเมืองเพื่อพัฒนาโครงข่ายการเดินทางที่สามารถเชื่อมต่อทางสายหลักโดยตรงไม่ต้องเดินทางมาที่ตัวเมือง
“โครงการดังกล่าวนอกจากจะเป็นการพัฒนาเพิ่มศักยภาพโครงข่ายการขนส่งให้สมบูรณ์ขึ้นแล้ว ยังสามารถร่วมใช้พื้นที่เขตทางก่อสร้างคลองระบายน้ำเพื่อช่วยป้องกันหรือบรรเทาปัญหาน้ำท่วม และก่อสร้างทางจักยานตลอดจนงานภูมิทัศน์ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มทัศนียภาพให้สวยงามเพื่อให้จังหวัดชัยภูมิเป็นเมืองที่น่าอยู่อาศัยอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย”
นายสุริยะ กล่าวด้วยว่า จังหวัดชัยภูมิเป็นจังหวัดที่สำคัญในด้านการเชื่อมต่อกับภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ของประเทศ
ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในทุกมิติ โดยเฉพาะการคมนาคมขนส่งที่เน้นเรื่องความสะดวก รวดเร็ว และต้องให้เกิดความปลอดภัยกับประชาชนที่ต้องเดินทางในทุกโครงข่าย
นอกจากนี้ยังได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานผลักดันโครงการต่าง ๆ ให้เกิดผลสัมฤทธิ์โดยเร็ว เพื่อส่งเสริมศักยภาพทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว
รวมถึงคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ให้มีความสมบูรณ์ไร้รอยต่อภายใต้มาตรฐานที่เป็นสากล มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยสูงสุด