นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงประเด็นเรื่องการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศ ว่า ขอให้ความเห็นในฐานะของคณะกรรมการหอการค้าโดยมองว่าการปรับขึ้นค่าแรงขึ้นมา ไม่ใช่เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจแต่จะเป็นการซ้ำเติมประเทศมากกว่า
ทั้งนี้ เรื่องค่าแรงไม่ควรจะมาปรับขึ้นทั่วประเทศ เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อนักลงทุนเพราะผู้ประกอบการมีการวางแผนงานประจำปีล่วงหน้าไว้
"การปรับขึ้นค่าแรงแบบนี้จะส่งผลกระทบกับแผนงานและต้นทุนของผู้ประกอบการ สิ่งที่รัฐบาลจะต้องทำ ก็คือทำให้เกิดการจ้างจ้างงาน และต้องดูว่าค่าแรงของประเทศไทยเท่าไรสามารถสู้และแข่งขันกับต่างประเทศได้หรือไม่"
นายทวี ปิยะพัฒนา รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. ซึ่งประกอบด้วยส.อ.ท. ,สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และหอการค้าไทย และสมาคมธนาคารไทยนั้น กกร.กกร.ยังแสดงจุดยืนชัดเจน คัดค้านการปรับขึ้นค่าแรงเป็นวันละ 400 บาทเท่ากันทั่วประเทศ
หากยังยืนยันจะปรับขึ้นในวันที่ 1 ต.ค.นี้ จะได้เห็นสัญญาณอันตรายยิ่งกว่านี้ โดยเฉพาะผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการรายเล็ก หรือเอสเอ็มอี (SMEs) อาจได้เห็นการปิดตัวเพิ่มขึ้น
"เรื่องดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อนักลงทุน ยิ่งตอนนี้โรงงานปิดไปแล้วใกล้ๆจะพันแห่ง เลิกจ้างไปจำนวนมาก หากเกิดมีเหตุการณ์นี้อีกนับว่าเป็นสัญญาณอันตรายอย่างมาก โดยผลสำรวจค่าแรงวันนี้เอกชนเกิน 70% ไม่ต้องการให้มีการปรับ"