“พิชัย” พร้อมชงครม. ปรับเงื่อนไขกองทุน Thai ESG

04 ก.ค. 2567 | 03:32 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ก.ค. 2567 | 03:37 น.

“พิชัย ชุณหวชิร” รองนายกฯ และรมว.คลัง ยันพร้อมชงครม.ไฟเขียวปรับเงื่อนไขของกองทุน Thai ESG ใหม่ พร้อมคงเป้า GDP ปี 2567 โต 3% แม้ World Bank หั่นประมาณการเศรษฐกิจไทยลงเหลือ 2.4%

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในเร็ว ๆ นี้ กระทรวงการคลัง จะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการปรับเงื่อนไขของกองทุน Thai ESG ใหม่ ภายใต้มาตรการขับเคลื่อนตลาดทุน หลังจากได้มีการแถลงรายละเอียดไปแล้วก่อนหน้านี้

สำหรับรายละเอียดเบื้องต้นของการปรับเงื่อนไข Thai ESG ใหม่ ภายใต้มาตรการขับเคลื่อนตลาดทุน มีดังนี้

  1. ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน และซื้อได้สูงสุดไม่เกิน  300,000 บาท จากเดิมสูงสุด 100,000 บาท 
  2. ระยะเวลาถือครอง 5 ปี จากเดิม 8 ปี (นับจากวันที่ซื้อ)
  3. ต้องลงทุนใน หุ้นใน SET/MAI โดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม (E) / ESG หรือเปิดเผยข้อมูล ก๊าซเรือนกระจก หรือระดับการประเมิน cg rating ของ IOD และมีการเปิดเผยข้อมูลด้านบรรษัทภิบาล (G) ในระดับ และ รูปแบบ ที่ ก.ล.ต. กำหนด, ESG Bond และ Green Token 
  4. หุ้นไทยที่อยู่ในดัชนี ESG ที่ได้รับความเชื่อถือระดับสากลมากกว่า  80% จากเดิมส่วนใหญ่เน้นที่ ESG Bond และ Green Token เท่านั้น

ส่วนกรณีที่ธนาคารโลก (World Bank) ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2567 จาก 2.8% เหลือ 2.4% รองนายกฯ มองว่า การปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจของ World Bank ลงเป็นการปรับลงมาใกล้เคียงกับการที่หน่วยงานเศรษฐกิจของไทยได้ประเมินตัวเลขเศรษฐกิจในปีนี้ และยืนยันว่ารัฐบาลต้องพยายามขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ได้ตามเป้าหมาย 3% ในปี 2567 นี้ 

“เหตุผลที่ World Bank ปรับลดจีดีพี ลงอาจเป็นเพราะว่า ยังไม่เห็นว่าเรามีเครื่องมือ เงิน หรือโครงการ อะไรที่กำลังจะผลักดันออกไป เช่น ตอนแรกจะเอาโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เข้ามารวมในประมาณการปีนี้ แต่ครั้งนี้เข้าใจว่าปรับใหม่เป็นยังไม่รวมมาตรการดิจิทัลวอลเล็ตนี้ เลยปรับตัวเลขลดลง ซึ่งรัฐบาลยืนยันว่าจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ได้ตามเป้าหมาย 3% ในปีนี้” รองนายกฯ ระบุ