คลังรับเศรษฐกิจไทยป่วย เร่งออกมาตรการกระตุ้น ดันจีดีพีโต 3%

03 ก.ค. 2567 | 04:02 น.

“เผ่าภูมิ” รมช.คลัง รับเศรษฐกิจไทยมีปัญหา หลัง World Bank ปรับคาดการณ์เหลือโต 2.4% เร่งออกมาตรการกระตุ้น ระหว่างรอแจกเงินดิจิทัล หนุนจีดีพีโต 3%

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กรณีที่ World Bank ได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทย เหลือโต 2.4% นั้น ยอมรับว่าขณะนี้เศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงมีปัญหา สิ่งที่รัฐบาลต้องทำ คือ การกระจายเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจ 

อย่างไรก็ตาม ในปี 2567 นี้ รัฐบาลจะเร่งผลักดันให้เศรษฐกิจจะขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 3% 

“ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาไม่ดี รัฐบาลก็ไม่ได้นิ่งเฉย เราก็ได้ออกมาตรการภาษี เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรอง และธนาคารออมสินจะออกสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) ซึ่งจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติในสัปดาห์หน้า”

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

ทั้งนี้ คาดว่าโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ที่จะออกมาในช่วงไตรมาส 4  น่าจะมีผลต่อเศรษฐกิจเล็กน้อย แต่จะมีผลต่อเศรษฐกิจในไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ของปี 2568 เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ระหว่างรอการเดินหน้าโครงการดิจิทัล วอลเล็ต จะต้องมีมาตรการลงไปหมุนเวียน กระตุ้นเศรษฐกิจ และภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ จะเสนอครม.อนุมัติออกมาตรการทางภาษีออกมาเพิ่มเติม 

“ช่วงปลายปีต้องมีมาตรการลงไปหมุนเวียนให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อ ส่วนมาตรการสินเชื่อ เป็นอีกหนึ่งมาตรการที่รัฐพิจารณา เพราะใช้ราคาในการดำเนินการไม่สูง ง่ายกว่าการใช้งบประมาณดำเนินการ แต่ที่ผ่านมาเรายังให้ความสำคัญไม่ตรงจุด ฉะนั้น จะต้องเข้ามายกระดับสินเชื่อ ซึ่งเร็วๆ นี้ รัฐบาลจะยกระดับการค้ำประกันสินเชื่อใหม่ ช่วยให้เข้าถึงสินเชื่อได้มากยิ่งขึ้น”

ขณะที่ในเรื่องการเบิกจ่ายของภาครัฐ ในปีงบประมาณ 2567 นั้น แม้งบประมาณออกมาล่าช้า แต่ยังไม่ได้เป็นเรื่องที่น่ากังวล โดยการเบิกจ่ายภาครัฐยังเป็นไปตามกรอบเป้าหมาย รวมทั้งการเบิกจ่ายงบลงทุนรัฐวิสาหกิจด้วย ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ 

นอกจากนั้น ยังได้หารือ สคร. ผลักดันให้ใช้โครงการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐกับเอกชน (PPP) พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานมากขึ้น เพื่อเป็นอีกหนึ่งแรงช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยวเมืองรอง ซึ่งปัจจุบันต่างชาติเดินทางมาเที่ยวเมืองรองเพิ่มขึ้นกว่า 40%

นอกจากนี้ นายเผ่าภูมิ ยังได้กล่าวปาฐกถาพิเศษในงานเปิดตัวรายงานตามติดเศรษฐกิจไทย (Thailand Economic Monitor) ในหัวข้อ "ปลดล็อกศักยภาพการเติบโตของเมืองรอง (Unlocking The Growth Potential of Secondary Cities) ว่า ได้จัดทำดัชนีวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจเชิงพื้นที่ (Spatial Economic Fundamental Index) หรือชื่อย่อว่า “SEFI” ซึ่งเป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ด้านเศรษฐกิจ จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลายประกอบกัน 

 ทั้งนี้ SEFI สะท้อนว่าเมืองหลักมีความพร้อมของปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจสูงกว่าเมืองรองอย่างชัดเจน ค่า SEFI เฉลี่ยเมืองหลักอยู่ที่ 0.081 

ขณะที่เมืองรองเฉลี่ยอยู่ที่ -0.046 ซึ่งโมเดลนี้จะมีตัวเลขในทุกอำเภอ ทุกตำบล ทำให้ SEFI สามารถใช้ในการประเมินจุดแข็งและจุดอ่อนของเมืองรองเพื่อทำมามาตรการในการพัฒนาพื้นที่เพื่อเป็นการต่อยอดจุดแข็งและการแก้ไขจุดอ่อนของเมืองรอง เพื่อส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว ซึ่งเป็นต้นแบบโมเดลของกระทรวงการคลังในการลดความเหลื่อมล้ำแบบตรงจุด ตรงพื้นที่ ตรงความต้องการ