เปิดลงทะเบียนออนไลน์ อบรม 13 หลักสูตรฟรี ดัน 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์

04 ก.ค. 2567 | 09:57 น.

รัฐบาลเปิดลงทะเบียนออนไลน์ อบรม 13 หลักสูตรฟรี 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ เพื่อ Upskill-Reskill ดันยุทธศาสตร์ Soft Power ภายใน 4 ปี สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 4 ล้านล้านบาท คนไทยทุกครัวเรือนให้มีรายได้ 200,000 บาทต่อปี

รัฐบาลเดินหน้าสร้างโอกาส สร้างแรงบันดาลใจ ผลักดัน Soft Power ไทย ให้ก้าวสู่เวทีระดับโลก โดยตั้งเป้าสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 4 ล้านล้านบาท ยกระดับชีวิตคนไทยทุกครัวเรือน ด้วยการเปิดให้ประชาชนลงทะเบียน เพื่ออบรม 13 หลักสูตรฟรี กับนโยบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ เพื่อ Upskill-Reskill 

ล่าสุด นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยวันที่ 4 ก.ค. 67 ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มุ่งสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการผลักดันอุตสาหกรรม Soft Power ไทยให้เติบโต ยกระดับทักษะขั้นสูงแก่แรงงานไทย พร้อมต่อยอดความสำเร็จจากงาน THACCA SPLASH - Soft Power Forum 2024 ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 28 - 30 มิถุนายน 2567

ซึ่งได้รับกระแสความสนใจจากประชาชนจำนวนมาก ที่มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวคิดที่ตกผลึกเป็นนโยบายที่รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะนำไปขับเคลื่อนการทำงานต่อเนื่อง เพื่อสร้างพื้นที่การรับรู้ให้ Soft Power ไทย ก้าวสำคัญในการผลักดัน 11 อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทยสู่เวทีโลก ตั้งเป้า 4 ปี สร้างมูลค่าเศรษฐกิจ 4 ล้านล้านบาท

งาน THACCA SPLASH - Soft Power Forum 2024 แม้จะจัดขึ้นเป็นครั้งแรกก็สามารถดึงดูดผู้ชมจากหลายช่วงวัย สร้างแรงบันดาลใจ เวทีแลกเปลี่ยน และการรับรู้ถึงศักยภาพของ Soft Power ไทย โดยนับเป็นก้าวสำคัญในการผลักดัน 11 อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทยสู่เวทีระดับโลกอย่างเป็นรูปธรรม ดังนี้:

1. สาขาหนังสือ

  • ส่งเสริมงานแปลและงานเขียนไทยสู่ตลาดต่างประเทศ มีโครงการแปลหนังสือไทยไปต่างประเทศ และสร้างนักแปล นักวาดภาพประกอบ

2. สาขาภาพยนตร์ ละคร ซีรีส์ สารคดี และแอนิเมชัน

  • ผลักดันการตั้งสภาภาพยนตร์ และการจัดหลักสูตรให้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง

3. สาขาอาหาร

  • โครงการ “หนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งเชฟอาหารไทย” พัฒนาคนในอุตสาหกรรมอาหาร 6,500 คนในปีนี้ และ 15,000 คนในปี 2568 ฝึกอบรมกับสถาบันศึกษาทั่วประเทศ รวมทั้งการสนับสนุนพืชสมุนไพร

4. สาขาการออกแบบ

  • ผลักดันนักออกแบบไทยสู่สากล จัดทำนิตยสารเผยแพร่ผลงานนักออกแบบไทย และเปิดตัวนิตยสารในเมืองใหญ่ทั่วโลก

5. สาขาการท่องเที่ยว

  • ส่งเสริมการฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว แหล่งวัฒนธรรม กระจายรายได้สู่จังหวัดที่น่าเที่ยวอื่น ๆ และพัฒนาหลักสูตรการเป็นเจ้าบ้านที่ดี

6. สาขาดนตรี

  • ส่งเสริมบุคลากรด้านดนตรี ให้โอกาสเด็กไทยเรียนรู้ พร้อมสนับสนุนศิลปินไทย เพลงไทย และดนตรีพื้นถิ่นสู่เวทีโลก

7. สาขาเกม

  • จัดการแข่งขันเกมระดับท้องถิ่น เพิ่มสัดส่วนมูลค่าของเกมในประเทศไทย และจัดงานอีสปอร์ตให้ไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค

8. สาขาเทศกาล

  • ถ่ายทอดเรื่องราวและประวัติศาสตร์ไทยผ่านการท่องเที่ยว พร้อมอบรม KOL ให้เล่าเรื่องราวจากงานเทศกาลเพื่อการจดจำและบอกต่อไปทั่วโลก

9. สาขาศิลปะ การท่องเที่ยว วัฒนธรรม

  • ส่งเสริมการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัล Thailand Art Move พร้อมเปิดให้ชมผลงานศิลปะมูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท ในปี 2568 และฝึกอบรมพัฒนาคน

10. สาขาแฟชั่น เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ ความงาม และงานฝีมือ

  • ส่งเสริมการใช้วัตถุดิบและช่างฝีมือภายในประเทศ ผ่านการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ และเสริมสร้างศักยภาพศิลปิน

11. สาขากีฬา

  • ผลักดันมวยไทยสู่เวทีโลก โดยสร้างบุคลากรมวย มีผู้ผลิตสินค้ามวยขายทั้งในประเทศและส่งออก

นายชัย กล่าวว่า รัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายตามแนวนโยบายยุทธศาสตร์ Soft Power ภายในระยะเวลา 4 ปี สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 4 ล้านล้านบาท ยกระดับชีวิตคนไทยทุกครัวเรือนให้มีรายได้ 200,000 บาทต่อปี สร้างงาน สร้างอาชีพให้ประชาชนและภาคเอกชนในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์จำนวน 20 ล้านตำแหน่ง

นอกจากนี้ ยังมีนโยบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ (One family One Soft power: OFOS) เพื่อ Upskill-Reskill ทักษะสร้างสรรค์ สามารถลงทะเบียนเพื่ออบรมหลักสูตรได้ฟรี ผ่านเว็บไซต์ https://ofos.thacca.go.th

“นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าไทยมีศักยภาพพร้อมจะได้รับการผลักดันสนับสนุน โดยการจัดงานครั้งนี้เป็นปฐมบทสำคัญสู่การเชื่อมโยงการดำเนินงานจากทุกกลุ่มอุตสาหกรรม สร้างแรงบันดาลใจ ประสบการณ์ และความคิดสร้างสรรค์ เป็นทิศทางสำหรับอนาคตให้แก่ Soft power ไทย ซึ่งรัฐบาลพร้อมร่วมมือกับทุกฝ่ายพัฒนาทักษะและศักยภาพของคนไทย เพื่อเพิ่มโอกาส สร้างความมั่นคงให้แก่ชีวิตประชาชนทุกสาขาอาชีพ นำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยอย่างมีประสิทธิภาพ” นายชัย กล่าว