นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจเดือนมิถุนายน 2567 มีการจดทะเบียนจำนวน 7,351 ราย ลดลง 275 ราย คิดเป็น 3.61% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (มิ.ย. 2566) และมีมูลค่าทุนจดทะเบียน 27,979.07 ล้านบาท ลดลง 11,760.65 ล้านบาท คิดเป็น 29.59% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (มิ.ย. 2566) โดยเดือนมิถุนายน 2567 มีธุรกิจจัดตั้งสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 566 ราย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 522 ราย และ ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 330 ราย ซึ่ง 6 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม - มิถุนายน 2567) มีสถิติการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจรวมทั้งสิ้น 46,383 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 145,078.60 ล้านบาท
โดยธุรกิจที่มีการจดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่
จากจำนวนการจัดตั้งธุรกิจเดือนมกราคม - มิถุนายน 2567 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (2566) มีจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจลดลงเล็กน้อย 903 ราย (ลดลง 1.91%) ทุนจดทะเบียนลดลง 283,568.88 ล้านบาท (ลดลง 66.15%) โดยปี 2566 (มกราคม - มิถุนายน) มีการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล จำนวน 47,286 ราย ทุน 428,647.49 ล้านบาท
เนื่องจากปี 2566 มีบริษัทมูลค่าทุนจดทะเบียนเกิน 1 แสนล้านบาท ควบรวมกิจการและแปรสภาพจำนวน 2 บริษัท ได้แก่ 1) การควบรวมกิจการระหว่าง บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น เดิม และ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น เป็น บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ใหม่ โดยมีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 138,208.40 ล้านบาท และ 2) การแปรสภาพบริษัทจำกัด เป็น บริษัทมหาชนจำกัด ของ บมจ.บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชั่น ซึ่งมีมูลค่าทุน 124,435.03 ล้านบาท จึงทำให้ทุนจดทะเบียนในปี 2566 สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ 6 เดือนแรกปี 2567 มีธุรกิจที่มีทุนจดทะเบียนจัดตั้งเกิน 1,000 ล้านบาท จำนวน 7 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 19,178.14 ล้านบาท แบ่งเป็น ธุรกิจโฮลดิ้ง 4 ราย ธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องมือแพทย์ 1 ราย ธุรกิจเกี่ยวกับแว่นตา 1 ราย และธุรกิจผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ 1 ราย
ด้านจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการ พบว่า เดือนมิถุนายน 2567 มีจำนวนการจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการจำนวน 1,416 ราย ลดลง 243 ราย คิดเป็น 14.65% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (มิ.ย. 2566) มีมูลค่าทุนจดทะเบียนเลิก 4,903.58 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (มิ.ย. 2566) และลดลงจากเดือนที่ผ่านมา (พ.ค. 2567) 49,900.79 ล้านบาท คิดเป็น 91.05%
โดย 6 เดือนที่ผ่านมา มีธุรกิจที่จดทะเบียนเลิกประกอบกิจการจำนวน 6,039 ราย ทุนจดทะเบียน 76,748.35 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่
จากจำนวนการจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการเดือนมกราคม - มิถุนายน 2567 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (2566) มีจำนวนการจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการลดลง 1,058 ราย (ลดลง 14.91%) ทุนจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการ เพิ่มขึ้น 27,143.63 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 54.72%) โดยปี 2566 (มกราคม - มิถุนายน) มีการจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการ จำนวน 7,097 ราย ทุน 49,604.72 ล้านบาท
ซึ่ง 6 เดือนแรกปี 2567 มีธุรกิจที่มีทุนจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการเกิน 1,000 ล้านบาท จำนวน 4 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 52,794.05 ล้านบาท แบ่งเป็น ธุรกิจผลิตเครื่องดื่ม 1 ราย ธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ไม้ 1 ราย ธุรกิจเกี่ยวกับโทรคมนาคม 1 ราย และธุรกิจเกี่ยวกับเช่าห้องชุดพักอาศัย 1 ราย เมื่อเทียบอัตราการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ กับ การจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการของปี 2567 อยู่ที่จัดตั้ง 8 ราย เลิก 1 ราย ขณะที่ปี 2566 มีการจัดตั้ง 7 ราย เลิก 1 ราย ซึ่งปี 2567 มีอัตราการเทียบที่มากกว่า ปี 2566
ปัจจุบันมีธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่จำนวน 922,508 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 22,334,762.09 ล้านบาท แบ่งเป็น 1) บริษัทจำกัด 719,281 ราย (77.97%) ทุน 16,110,875.13 ล้านบาท (72.14%) 2) ห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 201,757 ราย (21.87%) ทุน 472,044.11 ล้านบาท (2.11%) และ 3) บริษัทมหาชนจำกัด 1,470 ราย (0.16%) ทุน 5,751,842.85 ล้านบาท (25.75%)