กรมพัฒนาธุรกิจฯ ผนึก ปปง. สกัดวงจรฟอกเงิน-ธุรกิจนอมินี

04 มิ.ย. 2567 | 05:30 น.
อัปเดตล่าสุด :04 มิ.ย. 2567 | 05:38 น.

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ผนึก ปปง. เชื่อมโยงภารกิจสำคัญ 4 ด้าน หยุดยั้งการฟอกเงินและธุรกิจนอมินีในประเทศ ประกอบด้วย เชื่อมข้อมูลนิติบุคคล เตรียมความพร้อมตามตัวชี้วัด BO ของธนาคารโลก และร่วมปรับปรุงกฎหมายเข้มงวดมากขึ้น

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ประชุมหารือร่วมกับนายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อหาแนวทางความร่วมมือในการเชื่อมโยงงานด้านการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับนิติบุคคล ประกอบกับช่วยกันสร้างความเข้าใจและประชาสัมพันธ์ถึงภารกิจของทั้ง 2 หน่วยงานให้แก่ประชาชนได้รับรู้

สำหรับประเด็นสำคัญของการประชุมมี 4 ประเด็นคือ 

  1. การเชื่อมโยงข้อมูลนิติบุคคลของกรมฯ ผ่านระบบ Web Services ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ปปง. สามารถเข้าถึงข้อมูลของนิติบุคคล เพื่อนำไปใช้ในการตรวจสอบ การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
  2. การประชาสัมพันธ์ข้อมูลของปปง. และสามารถตรวจสอบข้อมูลบุคคลที่ถูกกำหนดตามมาตรา 6 และมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง พ.ศ. 2559 เพื่อสร้างความรู้ให้แก่ประชาชนนำไปสู่การระมัดระวังในการทำธุรกิจป้องกันความเสียหายทางเศรษฐกิจในอนาคต
  3.  การทำงานร่วมกันเพื่อหามาตรการรองรับการปฏิบัติตามตัวชี้วัดเรื่องการแจ้งผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง Beneficial Ownership (BO) ตามแนวทางของการประเมิน Business Ready (B-READY) ของธนาคารโลก ซึ่งตัวชี้วัดนี้ เป็นภารกิจที่เกี่ยวข้องกับทั้ง 2 หน่วยงาน การดำเนินงานร่วมกันตามตัวชี้วัดนี้จะส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายสำคัญและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนต่างชาติ เพื่อทำธุรกิจในประเทศไทยได้อย่างโปร่งใสและรวดเร็ว 
  4. ร่วมกันปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบธุรกิจนอมินีเพื่อป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในประเทศไทย

ทั้งนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีความพร้อมที่จะช่วยศึกษาวิเคราะห์และสนับสนุนการทำงานของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และหน่วยงานอื่น ๆ ภายใต้กฎหมายอย่างเต็มที่  

พร้อมสร้างจิตสำนึกที่ดีแก่นิติบุคคลเพื่อป้องกันและตัดวงจรการฟอกเงินในประเทศไทยให้หมดไป ประกอบกับสร้างความตระหนักถึงความสำคัญในการทำธุรกิจอย่างสุจริต โดยใช้ช่องทางประชาสัมพันธ์ต่างๆ ของกรมฯ ด้วย