เงินดิจิทัล10000 กลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน รอแจ้งข้อมูลลงทะเบียนอีกครั้ง

24 ก.ค. 2567 | 05:00 น.
อัพเดตล่าสุด :24 ก.ค. 2567 | 06:42 น.

ลงทะเบียนเงินดิจิทัล 10000 บาท สำหรับกลุ่มคนไม่มีสมาร์ทโฟน กระทรวงการคลัง แจ้งข้อมูลขอให้รอแจ้งข้อมูลผ่านเจ้าหน้าที่รัฐ ส่วนกลุ่มเปราะบาง ผู้พิการ ป่วยติดเตียง รอฟังข่าวดี

วันนี้ (24 กรกฎาคม 2567) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงรายละเอียดนโยบายเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ว่า การลงทะเบียนประชาชนกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมการให้เข้าร่วมโครงการฯ ได้ในระยะต่อไป โดยจะให้เปิดลงทะเบียนและยืนยันตัวตนผ่านช่องทางที่กำหนด (ระหว่างวันที่ 16 กันยายน - 15 ตุลาคม 2567)

ทั้งนี้จะต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติ สถานะบุคคล และที่อยู่ตามทะเบียนบ้านเช่นเดียวกับกลุ่มผู้มีสมาร์ทโฟน สำหรับส่วนของการใช้จ่ายนั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาให้ใช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชน 

แต่การใช้สิทธิซื้อสินค้าจากร้านค้าจะทำได้ในวงแคบกว่าการใช้สิทธิของประชาชนกลุ่มที่มี สมาร์ทโฟน ดังนั้น การลงทะเบียนผ่านสมาร์ตโฟนจะสามารถใช้งานได้สะดวกกว่า จึงแนะนำให้พยายายามลงทะเบียนผ่านทางสมาร์ทโฟนก่อนเป็นอันดับแรก

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เบื้องต้นรัฐบาลกำลังพิจารณาแนวทางการลงทะเบียนประชาชนกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน โดยจะมีการแถลงรายละเอียดชัด ๆ อีกครั้ง เพราะไม่อยากให้เกิดความสับสนกับกลุ่มใหญ่ที่จะลงทะเบียนผ่านสมาร์ทโฟน แต่เบื้องต้นการลงทะเบียนผ่านบุคคลของรัฐ และจะพยายามเปิดให้กว้างที่สุด 

ขณะที่กลุ่มเปราะบาง ผู้พิการ และผู้ป่วยติดเตียงจะสามารถเข้าร่วมโครงการได้อย่างไรนั้น รมช.คลังยอมรับว่า รัฐบาลพร้อมดูแลประชาชนกลุ่มนี้เช่นกัน โดยหากลงทะเบียนผ่านสมาร์ทโฟนได้ ก็สามารถลงทะเบียนได้ตามระยะเวลาที่กำหนด ถ้าไม่มีสมาร์ทโฟนก็รอการเปิดลงทะเบียนรอบผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน แต่สิ่งที่รัฐบาลเป็นห่วงนั่นคือว่า การใช้จ่าย ซึ่งถ้าเป็นกลุ่มผู้ป่วยติดเตียง และผู้พิการนั้น จะเปิดให้มีการใช้จ่ายเงินในรอบพิเศษต่อไป โดยเร็ว ๆ นี้จะแจ้งรายละเอียดให้ทราบอีกครั้ง

ส่วนการลงทะเบียนสำหรับประชาชนทั่วไป ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม - 15 กันยายน 2567 จะดำเนินการผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" บนสมาร์ทโฟน โดยไม่มีการจำกัดจำนวนประชาชนที่จะเข้าร่วมใช้สิทธิ์ในโครงการฯ ดังนั้น ประชาชนทุกคนที่มาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการและมีคุณสมบัติครบถ้วน ก็สามารถเข้าร่วมโครงการได้ ซึ่งรัฐบาลได้ประมาณการไว้จำนวน 45 - 50 ล้านคน

ส่วนการลงทะเบียนร้านค้า ในเบื้องต้นกำหนดไว้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ซึ่งจะมีการแถลงข่าวเพิ่มเติมเพื่อแจ้งเกี่ยวกับคุณสมบัติของร้านค้า ช่องทางและวิธีการสมัครเข้าร่วมโครงการฯ และเงื่อนไขอื่น ๆ ให้ทราบต่อไป