นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวได้เร่งดำเนินจัดทำระบบการใช้จ่ายเงินในโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต เพื่อให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถใช้งานได้ภายในเดือนธ.ค.นี้
“รัฐบาลไม่สามารถกำหนดวันเวลาที่จะใช้จ่ายได้ เนื่องจากต้องดูความพร้อมของระบบก่อน ถ้าพิจารณาตามกรอบการทำงานแล้ว น่าจะประมาณเดือนธ.ค.67 แต่หากเร่งระบบได้จะพยายาม ซึ่งอาจก่อนเดือนธ.ค.ก็ได้ ดังนั้นขณะนี้ยังตอบเป็นวันเวลาชัดเจนไม่ได้ ต้องเป็นไปตามขั้นตอนก่อน โดยรัฐบาลจะแถลงข่าวให้ทราบเป็นระยะ ป้องกันไม่ให้ประชาชนสับสนเกี่ยวกับการใช้งาน”
ขณะเดียวกัน ในช่วงวันที่ 10 -15 ก.ย.นี้ จะมีการแถลงข่าวเกี่ยวกับการลงทะเบียนของประชาชนกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ผู้ป่วยติดเตียง อีกครั้ง เพื่อให้เข้าใจวิธีการลงทะเบียนและวิธีการใช้จ่าย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยติดเตียง ที่ต้องเปิดช่องทางพิเศษเป็นการเฉพาะทั้งผู้ป่วยติดเตียง
ทั้งนี้ เนื่องจากไม่สามารถบังคับให้ยืนยันตัวตนแบบพบหน้าได้ (Face to Face) โดยกลุ่มนี้ จะเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.-15ต.ค.67 หลังจากลงทะเบียนครบถ้วนแล้ว จะแถลงวิธีขั้นตอนการใช้จ่ายทั้งหมด
“สำหรับกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน ที่ใช้บัตรประชาชน เมื่อไปใช้สิทธิที่ร้านค้า ทางร้านค้าจะต้องถ่ายภาพบัตรประชาชนผู้มาใช้สิทธิไว้เป็นหลักฐานด้วย ขณะที่ร้านค้าจะต้องเปิดแอปพลิเคชั่น เพื่อรับเงิน ซึ่งจะทำให้รับทราบถึงพื้นที่การใช้งานในพื้นที่เขตอำเภอเท่านั้น”
ส่วนการลงทะเบียนร้านค้า จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 67 โดยคาดว่าจะมีร้านค้ามาลงทะเบียนประมาณ 3 ล้านราย จากเดิมที่มีการลงทะเบียน 2 ล้านราย หากร้านค้าที่ได้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการรัฐ กับกระทรวงพาณิชย์แล้ว ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ เพียงกดปุ่มอัปเดตข้อมูลใหม่ หากมีข้อมูลใดที่ยังไม่มีสามารถกรอกข้อมูลเพิ่มได้ และกดปุ่มเข้าร่วมโครงการเท่านั้น
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงประเด็นคำถามกรณีที่มีพระสงฆ์สามารถรับสิทธิดิจิทัลวอลเล็ตได้หรือไม่ ว่า พระสงฆ์ สามารถลงทะเบียนรับสิทธิเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาลได้ เพราะไม่ได้มีข้อห้ามลงทะเบียนแต่อย่างใด