เปิดสารพัดประโยชน์ "แอปทางรัฐ"รอแจกเงินดิจิทัล ใช้บริการภาครัฐ 83 บริการ

27 ก.ค. 2567 | 07:39 น.
อัพเดตล่าสุด :27 ก.ค. 2567 | 08:09 น.

เปิดสารพัดประโยชน์"แอปทางรัฐ” นอกจากไว้รอรับ “แจกเงินดิจิทัล” แล้ว ยังใช้บริการของภาครัฐกว่า 83 บริการ ทั้งจ่ายค่าน้ำ-ไฟ-เตือนใบขับขี่หมดอายุ-เตือนต่อภาษีรถ-ตรวจสอบสิทธิประกันสังคม รัฐบาลแนะวิธีดาวน์โหลด

กรณีที่รัฐบาลเตรียม “แจกเงินดิจิทัล” 10,000 บาท ให้ประชาชนที่มีอายุ 16 ปี ขึ้นไป โดยโอนเงินเข้าแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ช่วงต้นเดือนธันวาคม 2567 นั้น

วันที่ 27 ก.ค. 2567 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาแนะนำประชาชนให้ใช้แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ซึ่งเป็นแอปที่รวบรวมบริการของภาครัฐไว้มากที่สุด เป็นเสมือนศูนย์กลางบริการของภาครัฐ ที่มีให้เลือกใช้กว่า 83 บริการในแอปเดียว 

โดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ร่วม กับหน่วยงานพันธมิตรมากมายรวมทุกยูนิเวิร์สการให้บริการภาครัฐมารวมไว้แบบไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง หรือต้องไปรอต่อคิวที่หน่วยงาน 

ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายค่าน้ำ, ค่าไฟ, แจ้งเตือนใบขับขี่หมดอายุ, แจ้งเตือนวันต่อภาษีรถยนต์, ตรวจสอบสิทธิรักษาพยาบาล, สิทธิประกันสังคม, เช็คเงินสะสมประกันสังคม, ไปจนถึงจ่ายค่าปรับใบสั่งคุณตำรวจ และในอนาคตจะมีเพิ่มบริการมากขึ้นอีกเรื่อยๆ โดยที่ไม่ต้องจำเว็บ หรือ แอปอื่นให้วุ่นวาย

นายคารม กล่าวว่า การลงทะเบียน ด้วยความที่เป็นบริการที่ต้องเชื่อมข้อมูลไปยังหน่วยงานต่างๆ จึงจะต้องมีการยืนยันตัวตนหลายระดับ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นได้เลยว่า การเก็บรวบรวมข้อมูลนั้น จะเก็บเพื่อให้บริการได้อย่างถูกต้องตามมาตรฐานพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2565 ดังนั้น จึงมั่นใจเรื่องความปลอดภัยในการจัดการข้อมูลได้อย่างแน่นอน

 
สำหรับการลงทะเบียนนั้น แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” จะมีการยืนยันตัวตน 2 ระดับ ดังนี้

ระดับที่ 1 การยืนยันตัวผ่านการถ่ายบัตรประชาชนลงในแอปพลิเคชัน

ในการยืนยันตัวตนนี้จะสามารถใช้บริการตรวจสอบข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐได้ทันที ซึ่งขั้นตอนนี้ง่ายมาก เพียงถ่ายรูปบัตรประชาชน และถ่ายภาพหน้าตรงตามขั้นตอนที่ระบุในแอปพลิเคชัน ก็สามารถเข้าใช้งานบริการได้เลย

ระดับที่ 2 การยืนยันตัวตนผ่านทางจุดให้บริการยืนยันตัวตน

สำหรับในบางบริการที่ผู้ใช้งานจำเป็นต้องพิสูจน์ตัวตนเพิ่มเติม อย่างเช่น การตรวจสอบเครดิตบูโร ทางแอปพลิเคชันจะต้องขอยกระดับการพิสูจน์ตัวตนเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นการยืนยันว่าเจ้าของบัตรประชาชนกับผู้ที่ยืนยันตัวตนเป็นคนเดียวกัน

โดยการยืนยันตัวตนนั้นสามารถทำได้ผ่าน 5 ช่องทางดังนี้

1.ตู้บริการอเนกประสงค์ภาครัฐ

จะเป็นตู้คีออส ที่ให้บริการทั้งด้านข้อมูลและการลงทะเบียนต่างๆ ซึ่งตู้นี้จะสามารถใช้ในการยืนยันตัวตนกับแอปพลิเคชัน ทางรัฐ ได้ โดยจะต้องเตรียมบัตรประชาชนและโทรศัพท์มือถือเพื่อดำเนินการยืนยันตัวตน เมื่อได้ยืนยันตัวตนตามขั้นตอนที่แจ้งผ่านตู้แล้ว จะได้รับ QR Code เพื่อสแกนใช้งานแอปพลิเคชันทางรัฐ ถือว่าการยืนยันเสร็จเรียบร้อยภายในเวลาแปบเดียว

สำหรับวิธีการยืนยันตัวตนผ่านตู้บริการเอนกประสงค์ของภาครัฐ ทำได้โดยการเตรียมบัตรประชาชนให้พร้อม จากนั้นเสียบบัตรเข้าไปที่ตู้บริการ เลือกเมนูเปิดใช้งาน “ทางรัฐ” แล้วทำตามวิธีบนหน้าจอ เท่านั้นก็สามารถยืนยันตัวได้เรียบร้อย

2.แอปพลิเคชันจากกรมการปกครอง ที่พัฒนาขึ้นเพื่อพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล ในชื่อว่า D.DOPA ก็เป็นอีกช่องทางที่สามารถยืนยันตัวได้ง่ายๆ 

นอกจากจะใช้ยืนยันตัวตนกับแอปทางรัฐแล้ว แอปนี้ยังสามารถจองคิวใช้บริการกับทางภาครัฐอย่างสำนักทะเบียนอำเภอ หรือ สำนักทะเบียนท้องถิ่นทั่วประเทศได้อีกด้วย

สำหรับการยืนยันตัวตนแอปทางรัฐด้วย D.DOPA หากเคยลงทะเบียนใช้บริการกับทางแอป D.DOPA ก็สามารถลงทะเบียน “ทางรัฐ” ด้วยการกดที่ปุ่ม “เข้าสู่ระบบด้วย D.DOPA” ได้เลย

3.ตู้บุญเติม

เป็นอีกช่องทางที่สะดวกยิ่งขึ้นด้วยการยืนยันตัวตนผ่านตู้บุญเติม เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง โดยให้สังเกตตู้บุญเติมที่มีกล้องเล็กๆ ติดอยู่ที่ด้านบนของตู้ จะมีให้บริการยืนยันตัวตน e-KYC ซึ่งปัจจุบันมีให้บริการกว่า 2,000 จุดทั่วประเทศ

วิธีการยืนยันตัวตนผ่านตู้บุญเติม เพียงแค่เตรียมบัตรประชาชน และโทรศัพท์มือถือให้พร้อม จากนั้นเลือกเมนู “ทางรัฐ” บนหน้าจอตู้ก็จะแนะนำให้เสียบบัตรประชาชนเพื่อยืนยันตัวตน และระบบจะส่ง SMS เพื่อดำเนินการต่อในแอปพลิเคชันทางรัฐได้ทันที

สำหรับตู้บุญเติมได้มีการเปิดให้บริการทั่วประเทศ โดยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับตู้บุญเติมใกล้บ้าน ได้ทาง Call Center 1220 หรือ สามารถตรวจสอบตู้บุญเติมที่สามารถยืนยันตัวตนใกล้บ้าน ได้ที่เมนู “สมัครที่ตู้บุญเติม” บนแอปทางรัฐ

4.ไปรษณีย์ไทยทุกสาขา

สามารถยืนยันตัวตนได้ผ่านที่ทำการไปรษณีย์ไทยทุกสาขา โดยเตรียมบัตรประชาชนและโทรศัพท์มือถือ และแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์ได้เลยว่า ต้องการยืนยันตัวตันแอปพลิเคชันทางรัฐ หลังจากนั้นจะได้รับ SMS ที่ส่งลิงก์เพื่อให้ดำเนินการต่อทางแอป เท่านี้ก็ดำเนินการให้เสร็จเรียบร้อยทันที

และ 5. เคาน์เตอร์เซอร์วิส 7-Eleven

ช่องทางใหม่ที่เพิ่งเปิดให้ยืนยันตัวตน ผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส 7-11 ที่มีกว่า 13,000 สาขาทั่วประเทศ ก็สามารถยืนยันตัวตนแอปฯ ทางรัฐได้ เพียงกดที่เมนู “ยืนยันตัวตนที่ 7-Eleven” ระบบจะให้เราระบุเลขบัตรประชาชน และ หมายเลขโทรศัพท์ เพื่อสร้างเป็น QR Code 

จากนั้นแจ้งกับพนักงานที่สาขาว่าต้องการยืนยันตัวตนแอป “ทางรัฐ” พนักงานก็จะสแกน QR Code ซึ่งระบบจะส่ง SMS เพื่อให้เรายืนยันตัวตนผ่านทางแอป “ทางรัฐ” เท่านี้การยืนยันตัวตนก็เสร็จเรียบร้อย