ดิจิทัลวอลเล็ต VS บัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน: วิธีลงทะเบียนรับเงินหมื่น

31 ก.ค. 2567 | 04:15 น.
อัพเดตล่าสุด :31 ก.ค. 2567 | 04:26 น.

ดิจิทัลวอลเล็ต VS บัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน: พร้อมวิธีลงทะเบียนและยืนยันตัวตนเริ่มวันที่ 1 สิงหาคม 2567

เทียบฟอร์ม ดิจิทัลวอลเล็ต VS  บัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน: วัตถุประสงค์ของทั้งสองโครงการเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและกำลังซื้อในประเทศ สำหรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน กระทรวงการคลัง ได้เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 มีผู้ผ่านคุณสมบัติทั้งสิ้น 14.98 ล้านคน ได้สิทธิใช้จ่ายตลอดชีพ ดังนี้

กรมบัญชีกลาง โอนเข้าทุกวันที่ 1

เป็นวงเงินสิทธิไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และ ไม่สะสมในเดือนถัดไป

  • วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อคนต่อเดือน
  • วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน
  • วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน
  • ใชจ่ายซื้อสินค้าในร้านธงฟ้า

 

ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน ต้องลงทะเบียนรับเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10000

สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน จำนวน 14.98 ล้านคน ชัดเจนแล้วว่าได้รับสิทธิ์ในการลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 ผ่านแอปทางรัฐ สำหรับผู้มีสมาร์ทโฟนลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม – 15 กันยายน 2567

สำหรับผู้ได้รับสิทธิ์โครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10000 เริ่มใช้จ่ายภายในเดือนธันวาคม 2567 ใช้จ่ายเป็นระยะเวลา 6 เดือน

เงื่อนไขการใช้จ่ายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท

1.ประชาชนกับร้านค้า : ร้านค้าขนาดเล็ก ,ร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก ไม่รวมห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก-ค้าส่งสินค้าขนาดใหญ่ระดับประเทศและระดับท้องถิ่น ในร้านในอำเภอตามทะเบียนบ้าน ต้องซื้อขายแบบพบหน้า (Face to Face)

2.การใช้จ่ายระหว่างร้านค้ากับร้านค้า : ร้านค้าทุกประเภทสามารถซื้อขายสินค้าระหว่างกันได้ และไม่มีเงื่อนไขว่าต้องเป็นการซื้อขายแบบพบหน้า (Face to Face) จึงซื้อขายสินค้าระหว่างกันได้แม้จะอยู่ต่างพื้นที่ คาดว่าจะมี 2 ล้านร้านค้า

3. ประเภทสินค้า : ทุกประเภท ยกเว้น Negative List ได้แก่ สลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ กัญชา กระท่อม พืชกระท่อม ผลิตภัณฑ์กัญชาและกระท่อม บัตรกำนัล บัตรเงินสด ทองคำ เพชร พลอย อัญมณี น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องมือสื่อสาร (กงพาณิชย์ อาจพิจารณาแก้ไขปรับปรุงรายการสินค้า Negative List เพิ่มเติมได้)

เทียบฟอร์ม ดิจิทัลวอลเล็ต VS  บัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน: พร้อมวิธีลงทะเบียน

วิธีลงทะเบียนแอปทางรัฐ ร่วมโครงการเติมเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล 10000 บาท ลงทะเบียนผ่านแอปทางรัฐเพื่อยืนยันตัวตน (KYC) ไว้ก่อนได้ ซึ่งผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจนและประชาชนทั่วไปที่มีเงื่อนไขคุณสมบัติตามโครงการโดยเฉพาะกลุ่มที่มีสมาร์ทโฟน สามารถดำเนินการตาม 12 ขั้นตอน ดังนี้

1.ดาวน์โหลดแอปทางรัฐ

  • ผ่านระบบปฏิบัติการiOs (คลิก)
  • ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (คลิก)

2.เมื่อดาวน์โหลดและติดตั้งสำเร็จ

เปิดแอปทางรัฐ กดปุ่ม สมัครสมาชิก/เข้าสู่ระบบ

3. กดที่คำว่า สมัครสมาชิก

4.กดปุ่ม สมัครด้วยบัตรประชาชน บนแอปทางรัฐที่เดียว ไม่ต้องใช้แอปอื่นไม่ต้องไปเสียบบัตรที่ Counter Service ช่วยให้ลงทะเบียนได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม

5.อ่านข้อกำหนดและความเป็นส่วนตัวจากนั้นกดเครื่องหมาย ถูก ที่ ฉันยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไข แล้วกด ยอมรับ

6.อ่านข้อแนะนำในการถ่ายรูปบัตรประชาชนจากนั้น กดปุ่มเพื่อถ่ายรูป

 7.กรอกข้อมูลของท่านและตรวจสอบให้ถูกต้องตามบัตรประชาชน แล้วกดปุ่ม ยืนยันตัวตน

8. อ่านข้อแนะนำในการสแกนใบหน้าจากนั้นเริ่ม สแกนใบหน้าของท่าน

9.กำหนด ชื่อบัญชีผู้ใช้ และ รหัสผ่าน ในการเข้าสู่แอปฯ แล้วกด ยืนยัน

10.ตั้งค่า PIN Code 6 หลัก แล้วกดยืนยัน PIN Code อีกครั้ง

11. เปิดใช้งานการสแกนใบหน้าของท่านโดยกดที่ ใช้งาน

12. จากนั้นกด เริ่มใช้งาน และ เตรียมพร้อมรอติดตามประกาศวันกดยืนยันขอรับสิทธิจากรัฐบาลอย่างเป็นทางการได้เลย

หมายเหตุ: ในกรณีที่ท่าน สแกนใบหน้าไม่ผ่าน สามารถสร้างบัญชีและเข้าใช้งานแอปทางรัฐได้ก่อนแล้วค่อยทำการสแกนใบหน้าภายหลัง โดยกดปุ่มที่ สร้างบัญชี

คุณสมบัติผู้ได้รับสิทธิ์โครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท : รายละเอียดดังนี้

1. ประชากรที่มีที่อยู่ในทะเบียนบ้าน

2. สัญชาติไทย

3.อายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป (ก่อนวันที่ 16 ก.ย.67)

4.ไม่เป็นผู้มีรายได้เกิน 840,000 บาท (สำหรับปีภาษี 2566)

5. ไม่เป็นผู้ที่มีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจรวมกันเกิน 500,000 บาท (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567)

6. ไม่เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างต้องโทษจำคุกในเรือนจำ

7. ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการ/โครงการอื่น ๆ ของรัฐ

8. ไม่เป็นผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการ/โครงการอื่น ๆ ของรัฐ.

ที่มา: กระทรวงการคลัง