พาณิชย์ เกาะติดเศรษฐกิจสหรัฐฯ วางแผนรับมือหวั่นกระทบส่งออก

06 ส.ค. 2567 | 03:42 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ส.ค. 2567 | 03:48 น.

“ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ รับเกาะติดสถานการณ์สหรัฐฯ หวั่นกระทบส่งออก หลังทั้งโลกกังวลเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย พร้อมหาทางรับมือ เล็งคุย 3 กระทรวง หาทางคุมนำเข้า-ส่งออกสินค้าให้มีมาตรฐาน

วันนี้ (6 สิงหาคม 2567) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา กำลังมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) อีกครั้ง จนสร้างความกังวลต่อตลาดทุนทั่วโลกปรับตัวลดลงอย่างหนัก นับตั้งแต่เกิด “แบล็กมันเดย์” ขึ้นเมื่อ 37 ปีก่อนว่า กระทรวงพาณิชย์ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะด้านการส่งออก 

“กระทรวงพาณิชย์ ได้ติดตามสถานการณ์ตลอดเวลาอยู่แล้ว และไม่ยอมให้ผู้ประกอบการไทย และผู้บริโภคต้องเสียประโยชน์หรือได้รับผลกระทบ โดยไม่ได้ดูแค่ผลกระทบของสหรัฐฯ เพียงอย่างเดียว แต่ได้ดูสถานการณ์ทั้งหมด และได้ประสานงาน พร้อมจัดประชุมกับผู้ประกอบการรายเล็กรายย่อยรายใหญ่ เพื่อให้รับต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกได้ทัน ซึ่งทั้งหมดนี้กระทรวงพาณิชย์กำลังหาทางออก และถ้ามีความคืบหน้าจะแจ้งเป็นระยะ ๆ ต่อไป” นายภูมิธรรม ระบุ

นายภูมิธรรม กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ ได้เตรียมตัวรับมือมาตั้งแต่ต้นแล้ว เพราะรู้ว่าสถานการณ์ทางการเมือง เศรษฐกิจ สงคราม และสถานการณ์การจัดระเบียบโลกใหม่ที่เกิดขึ้น เป็นต้นทางและเป็นอุปสรรคกับการส่งออก จึงได้หาทางดูแลและวางระบบเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอยู่ต่อเนื่องแล้ว

ส่วนกรณีบริษัทด้าน E-Commerce ที่เข้ามาบุกตลาดในประเทศไทย จนเกิดข้อกังวลว่าจะกระทบต่อผู้ประกอบการไทยนั้น รองนายกฯ ระบุว่า กระทรวงพาณิชย์รับทราบแล้ว ซึ่งต้องเข้าใจปัจจุบันระบบการค้าโลกมีการเปลี่ยนแปลงไปสู่การค้าออนไลน์มากขึ้น โดยข้อกังวลที่เกิดขึ้นก็ยังเป็นการคาดเดาสถานการณ์ จึงคงต้องรอดูสถานการณ์ก่อน 

อย่างไรก็ตามในเร็ว ๆ นี้ กระทรวงพาณิชย์ ยังเตรียมนัดประชุมหน่วยงานเศรษฐกิจ ทั้งกระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงสาธารณสุข เพื่อพิจารณาการนำเข้า-ส่งออกสินค้าให้มีมาตรฐาน ทั้งมาตรฐานอุตสาหกรรม และมาตรฐานของสำนักงานคระกรรมการอาหารและยา (อย.) โดยจะหาแนวทางทางควบคุมป้องกันได้อย่างไรบ้าง หรือจะแก้กฎหมายที่เป็นอุปสรรคฉบับใดได้บ้างที่ไม่ขัดต่อความตกลงขององค์การการค้าโลก หรือ WTO ด้วย