โครงการสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ซึ่งเป็นโครงการสำคัญภายใต้เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยในส่วนของงานก่อสร้างทางวิ่ง (รันเวย์) ที่ 2 และทางขับ ซึ่งที่ผ่านมากองทัพเรือ ได้เปิดประมูลให้ภาคเอกชนเข้ามาประมูลการก่อสร้างในโครงการ โดยมีเอกชนผ่านคุณสมบัติ 5 ราย ตามหลักเกณฑ์การประมูลโครงการก่อสร้างแบบนานาชาติ (International Bidding)
แหล่งข่าวจากกองทัพเรือ เปิดเผยความคืบหน้าล่าสุด ว่า คณะกรรมการคัดเลือกได้สรุปผลการคัดเลือกภาคเอกชนที่ชนะการประมูลการก่อสร้างโครงการนี้ โดยมี บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD เสนอราคาการประมูลก่อสร้าง 13,200 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลางที่กำหนดไว้ที่ 15,200 ล้านบาท ขณะที่อีก 4 บริษัทเสนอราคาการก่อสร้างสูงกว่า ITD ทุกราย
แหล่งข่าว กล่าวว่า ในขั้นตอนต่อจากนี้ คณะกรรมการคัดเลือกเตรียมจะประกาศผลการคัดเลือก จากนั้นกองทัพเรือ ในฐานะเจ้าของโครงการจะทำสัญญากับ ITD เพื่อเริ่มทำการก่อสร้าง โดยกำหนดระยะเวลาในการก่อสร้างโครงการนี้ให้แล้วเสร็จภายใน 3 ปีนับจากวันที่เริ่มทำสัญญา โดย ITD ต้องวางหนังสือค้ำประกันโดยธนาคาร (Bank Guarantee) เต็มวงเงินค่าก่อสร้าง ซึ่งตอนนี้มีสถาบันการเงินแห่งหนึ่งออก Bank Guarantee ให้แล้ว
ส่วนความคืบหน้าของโครงการสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก นั้น เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และคณะ ได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้าโครงการ ณ สนามบินอู่ตะเภา อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง พร้อมรับทราบรายงานจากกองทัพเรือ และผู้แทนจากบริษัทเอกชนด้านงานก่อสร้างและสาธารณูปโภคในพื้นที่สนามบินอู่ตะเภาฯ
ขณะที่ความก้าวหน้าการพัฒนา โครงการสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ในส่วนของหน่วยงานรัฐ ที่สำคัญ ๆ อาทิ ด้านงานก่อสร้างทางวิ่งที่ 2 และทางขับ ซึ่งกองทัพเรือ ได้รับอนุมัติกรอบวงเงินจำนวน 16,210 ล้านบาท และ สกพอ. ได้ส่งมอบพื้นที่เขตส่งเสริมเมืองการบินภาคตะวันออก เพื่อให้ดำเนินการก่อสร้างโครงการฯ เป็นที่เรียบร้อย
โดยอยู่ระหว่างกระบวนการคัดเลือกผู้รับเหมางานก่อสร้าง และที่ปรึกษาเพื่อควบคุมงานก่อสร้าง ด้านงานระบบสาธารณูปโภคที่จัดทำโดยภาครัฐ เช่น ระบบไฟฟ้าและน้ำเย็น โรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ ขนาด 15 เมกะวัตต์ มีความก้าวหน้า 95.13% งานระบบประปาและน้ำเสีย กำลังผลิตน้ำประปา 10,000 ลูกบาศเมตรต่อวัน (เฟสแรก) ก่อสร้างแล้ว 100% ระบบบริการน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน มีความก้าวหน้าภาพรวม 50.16%
ส่วนการประสานแจ้งให้เอกชนเริ่มก่อสร้างโครงการฯ (NTP) คาดว่าจะสามารถแจ้ง NTP ได้ภายในปี 2567 นี้ เพื่อเริ่มก่อสร้างงานสำคัญ ๆ เช่น อาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 อาคารเทียบเครื่องบินรอง และศูนย์ธุรกิจการค้า เป็นต้น ซึ่งคาดว่าโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาฯ จะสามารถเปิดให้บริการในปี 2572
สำหรับการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาฯ จะก้าวสู่ศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาค เป็นสนามบินนานาชาติที่ได้มาตรฐานโลก รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการบิน เชื่อมโยงการท่องเที่ยวสู่ภาคธุรกิจ เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และขนส่งทางอากาศแห่งภูมิภาค เพื่อสร้างความมั่นใจ และเป็นปัจจัยสำคัญดึงดูดให้นักลงทุนเข้าสู่พื้นที่อีอีซี