คลังเสนอขายกองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง “พิชัย” นำทัพแถลง 13 ส.ค.นี้

10 ส.ค. 2567 | 02:15 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ส.ค. 2567 | 02:15 น.

คลังเตรียมเสนอขายกองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง “พิชัย ชุณหวชิร” รมว.คลัง นำทัพแถลงข่าว 13 ส.ค.นี้ คาดกรอบวงเงิน 1-1.5 แสนล้านบาท หน่วยละ 10 บาท จัดสรรหุ้นแบบ Small Lot First การันตีผลตอบแทนเทียบเคียงบอนด์ 10 ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 13 ส.ค.นี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง, ปลัดกระทรวงการคลัง, เลขาธิการ ก.ล.ต. และกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จะร่วมกันแถลงข่าว กองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง เตรียมเดินหน้าเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. เพิ่มทางเลือกการออม สนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนของประเทศ

ทั้งนี้ จากดำเนินการดังกล่าว เพื่อต้องการสนับสนุนการลงทุนในตลาดทุน หลังจากช่วงที่ผ่านมาดัชนีหุ้นไทยร่วง และมีความผันผวน ซึ่งก่อนหน้านี้ นายพิชัย กล่าวว่า แนวคิดการผลักดันกองทุนรวมวายุภักษ์กองด้วยการใส่เงินเข้าไปในกองทุนอีกแสนกว่าล้านบาท จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 3 แสนล้านบาท จะมีนักลงทุนสนใจ และช่วยสนับสนุนตลาดทุนได้ เนื่องจากผลตอบแทนเป็นลักษณะ Water fall คือต้องให้ผลตอบแทนกองที่ประชาชนซื้อได้รับผลตอบแทนก่อน

ด้านนายธิบดี วัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวว่า กระทรวงการคลังเตรียมจัดรับฟังความคิดเห็นภาคเอกชน (Market Sounding) ทั้งจากนักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนรายย่อย เกี่ยวกับกรณีที่กระทรวงการคลังจะเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนกองทุนรวมวายุภักษ์เพิ่มเติม โดยคาดว่าจะเสนอขายได้ในช่วงปลายปี 2567 นี้

นายธิบดี วัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.)

สำหรับรายละเอียดการเสนอขายหน่วยลงทุนดังกล่าว ทางสคร. และกระทรวงการคลังได้ร่วมหารือ เบื้องต้น กำหนดวงเงินเสนอขายไว้ที่ประมาณ 1-1.5 แสนล้านบาท เป็นการขายเพิ่มเติมจากกองทุนเดิมที่มีมูลค่าประมาณ 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งจะทำให้ขนาดของกองทุนรวมวายุภักษ์ใหญ่ขึ้น โดยรวมอยู่ที่ประมาณ 5 แสนล้านบาท ซึ่งวงเงินดังกล่าว ถือว่า เป็นขนาดที่เต็มกรอบวงเงินตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติไว้เมื่อปี 2556

ส่วนราคาที่จะเสนอขายเบื้องต้นกำหนดไว้ที่ 10 บาทต่อหน่วย เพื่อให้รายย่อยสามารถเข้าถึงการลงทุนดังกล่าวได้ โดยหลักการซื้อขายหน่วยลงทุนจะเป็นรูปแบบ Small Lot First คือ การจัดสรรหุ้นที่ให้สิทธิผู้จองซื้อขั้นต่ำก่อน โดยจะทยอยจัดสรรเป็นรอบๆ ในมูลค่าที่เท่ากัน และเวียนไปเรื่อยๆ จนครบจำนวนผู้จองซื้อหุ้นทั้งหมด

นายธิบดี กล่าวว่า การลงทุนในหน่วยลงทุนวายุภักษ์ครั้งนี้ จะมีการการันตีผลตอบแทนที่เทียบเคียงกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี หากว่านักลงทุนถือครองหน่วยลงทุนครบ 10 ปี จะได้รับคืนเงินต้น 100%

โดยจะมีการจ่ายผลตอบแทนปีละ 2 ครั้ง ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ผลตอบแทนการลงทุนในหน่วยลงทุนกองทุนรวมวายุภักษ์จะอยู่ในระดับที่เกินกว่า 3.5% หรือ เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 4% แต่ไม่รวม Capital Gain หรือกำไรจากการขายหน่วยลงทุน

“ผลตอบแทนที่ดีจากการถือหน่วยลงทุนวายุภักษ์ในช่วงที่ผ่านมา ก็เชื่อว่า จะเป็นจุดจูงใจให้นักลงทุนสนใจเข้าลงทุนในหน่วยลงทุนวายุภักษ์ที่เราจะเปิดใหม่นี้ ซึ่งเราประเมินว่า จะมีนักลงทุนรายย่อยเข้ามาซื้อส่วนหนึ่งเท่านั้น ส่วนที่เหลือจะเป็นนักลงทุนกลุ่มสถาบัน ทั้งสถาบันการเงิน ประกันชีวิต และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ซึ่งมีสภาพคล่องเพียงพอ”

อย่างไรก็ตาม จำนวนนักลงทุนทั่วไปที่เราจะเปิดขายหน่วยลงทุนนั้น จะกำหนดว่า จะต้องมีไม่ต่ำกว่า 35 ราย ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์เดิมที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำหนด แม้ว่าขณะนี้ ก.ล.ต.จะกำหนดเกณฑ์ใหม่ให้เหลือไม่ต่ำกว่า 10 รายก็ตาม เหตุผลก็คือ เราต้องการให้มีความหลากหลายของกลุ่มนักลงทุน

ทั้งนี้ สาเหตุที่กระทรวงการคลังต้องเสนอขายหน่วยลงทุนวายุภักษ์เพิ่มเติมในครั้งนี้ เป็นเพราะว่า ต้องการให้เม็ดเงินของกองทุนวายุภักษ์นี้ เข้าไปมีส่วนกระตุ้นการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มากยิ่งขึ้น