เอกชนช็อก-ชะงักลงทุนหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติถอดถอน "เศรษฐา" พ้นนายกฯ

14 ส.ค. 2567 | 09:35 น.
อัพเดตล่าสุด :14 ส.ค. 2567 | 09:35 น.

เอกชนช็อก-ชะงักลงทุนหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติถอดถอน "เศรษฐา" พ้นนายกฯ ชี้วันนี้ไทยมีปัญหาทางเศรษฐกิจที่รุมเร้า รวมถึงมีความท้าทายมากมายที่เกิดขึ้นในโลก ระบุไทยอยู่ในช่วงงรีบเร่งสร้างความเชื่อมั่น สร้างการลงทุนใหม่

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงประเด็นศาลรัฐธรรมนูญลงมติถอดถอน นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ปมแต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า ในมุมของภาคเอกชนได้สะท้อนให้เห็นภาพแล้วว่าวันนี้ประเทศไทยมีปัญหาทางเศรษฐกิจที่รุมเร้า 

รวมถึงมีความท้าทายมากมายที่เกิดขึ้นในโลก และประเทศไทยก็ยังอยู่ในช่วงที่จะต้องรีบเร่งในการที่จะสร้างความเชื่อมั่น สร้างการลงทุนใหม่เชิญชวนนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ
 

ทั้งนี้ มองว่าช่วงนี้เป็นช่วงจังหวะที่สำคัญ และปัจจัยที่เป็นตัวที่พิจารณาสำหรับนักลงทุนก็คือเรื่องของการเมือง ไทยต้องมีการเมืองที่มีเสถียรภาพ หรือว่ามีความนิ่ง และต่อเนื่อง เพราะที่ผ่านมาไม่มีความต่อเนื่องมานาน 

การเปลี่ยนขั้วพรรคการเมืองตลอดเวลาก็จะทำให้นโยบายที่รัฐบาลเคยขับเคลื่อนนั้นหยุดชะงักไป ขาดความต่อเนื่อง ซึ่งหากผลออกมานายกฯได้ไปต่อ คิดว่าก็จะทำให้ ระบบในประเทศเดินหน้าต่อได้ 

ผลออกมาเป็นแบบนี้ คิดว่าจะมีผลอันดับแรกก็คือช็อก แล้วก็ชะงัก ซึ่งแต่ละฝ่ายก็จะต้องกลับไปทบทวน ว่าการลงทุนจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่
 

นายเกรียงไกร กล่าวอีกโดยยอมรับว่าตั้งแต่มีคดี ตลอดระยะเวลากว่า 80 วัน ทุกคนก็ชะลออยู่แล้ว และรอดูกันอยู่ว่าสถานการณ์จะเป็นยังไง ทุกฝ่ายมีการมอนิเตอร์ ติดตามผล แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกอุตสาหกรรมจะหยุดหมดเพราะก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของอุตสาหกรรมนั้นด้วย 

ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศฝั่งสหรัฐอเมริกา ยุโรป อาจจะให้น้ำหนักในเรื่องนี้มาก เรียกว่าซีเรียสเลยก็ว่าได้ ทำให้มีนักธุรกิจหลายรายต้องการความชัดเจน และมีการสอบถามพูดคุยกับทาง ส.อ.ท อยู่ตลอดเวลา แต่ว่านักลงทุนทั้งโซนเอเชียเองอย่างนักลงทุนจากญี่ปุ่น ที่ถือว่าเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดของไทย และอยู่ในประเทศมา 40 - 50 ปี ก็อาจจะเริ่มเรียนรู้ และสามารถปรับตัวได้ 

ตลอดระยะเวลาในช่วงปี 1 ที่ผ่านมา คิดว่าต้องให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลในชุดของนายเศรษฐา เพราะขึ้นมาเป็นรัฐบาลในช่วงที่เกิดความท้าทายของโลกมากมายไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสงครามการค้า เรื่องของภูมิรัฐศาสตร์ การที่ต้องเลือกข้าง การย้ายฐานการผลิตจำนวนมากที่ไม่เคยรุนแรงและเข้มข้นขนาดนี้มาก่อน และรวมถึงปัญหาสะสมของประเทศไทย ที่ลึกไปเชิงโครงสร้างมาตั้งนาน แต่ว่านายกฯก็สามารถเข้ามาทำงาน ปรับตัวและใช้เวลาไม่มาก 3-4 เดือน ก็เริ่มพอเข้าใจในหน้าที่และมีแนวทางแก้ปัญหาเรื่องต่าง ๆ ได้