สะพัดโยก "งบดิจิทัลวอลเล็ต" เทกระจาดลงจังหวัดรับ รัฐบาลใหม่

16 ส.ค. 2567 | 00:26 น.

ความคืบหน้าล่าสุดโครงการเติมเงิน 10000 บาท ผ่าน Digital Wallet มีกระแสข่าวความไม่แน่นอนภายใต้ “รัฐบาลใหม่” ว่าจะเดินต่อหรือไม่ หลังลือสะพัด "งบดิจิทัลวอลเล็ต" อาจถูกโยกลงไปให้จังหวัดทำโครงการลงทุนแทน

อนาคต โครงการเติมเงิน 10000 บาท ผ่าน Digital Wallet หรือ เงินดิจิทัลวอลเล็ต อาจลุ้นหนักว่าจะเดินต่อหรือล้มโครงการ ภายหลังมีการประเมินกันว่า "รัฐบาลใหม่" ที่ไม่ใช่ อดีตนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน อาจพับนโยบายเรือธงของรัฐบาลเดิม เพราะใช้งบประมาณสูงถึง 4.5 แสนล้านบาท แถมเจอข้อครหาอีกสารพัดจนไม่น่าจะถึงฝั่งฝันได้ แม้ที่ผ่านมาจะเปิดลงทะเบียนดึงคนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 30 ล้านคน

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ยอมรับว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10000 บาท ที่ผ่านมาเจอปัญหาเกี่ยวกับแหล่งเงินที่จะนำมาใช้ในโครงการค่อนข้างมาก แม้ว่ารัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน จะปรับไปใช้เงินจากงบประมาณรายจ่ายปี 2567-2568 มาเดินหน้าโครงการ แต่ทั้งหมดก็ยังไม่มีความไม่แน่นอนว่าโครงการจะได้รับการสานต่อหรือไม่ โดยเฉพาะรัฐบาลใหม่ ซึ่งอาจมีโครงการที่ดีกว่าในการกระตุ้นเศรษฐกิจ 

ทั้งนี้มีการประเมินว่า หากรัฐบาลไม่เดินหน้าโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ตต่อไป การจัดเตรียมแหล่งเงินเดิม โดยเฉพาะการจัดทำ ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พ.ศ. .... วงเงิน 122,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของรัฐสภา สุดท้ายแล้วอาจมีความจำเป็นต้องทบทวนใหม่ทั้งหมด

แหล่งข่าว ระบุว่า หากรัฐบาลใหม่ไม่เอาโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10000 บาท ก็มีข้อเสนอเบื้องต้นว่า ควรนำงบประมาณส่วนนี้ไปใช้ในการลงทุน โครงการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากในระดับจังหวัด ซึ่งมีลักษณะคล้าย ๆ กับโครงการก่อนหน้านี้ที่ใช้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจช่วงหลังโควิด-19 แทนอาจเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันมากกว่า

นั่นเพราะการลงทุนโครงการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากในระดับจังหวัด จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับชุมชนและฐานรากได้ดี เพราะจะก่อให้เกิดการลงทุนที่แท้จริง โดยมีเงินที่กระจายลงไปในระบบเศรษฐกิจ และเกิดเงินหมุนเวียนในระบบประมาณ 1.5 เท่าของวงเงินที่ลงทุนไปด้วย

"หากปรับเงินโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต ลงไปในระบบเศรษฐกิจ อาจทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบมากขึ้น ช่วยผู้รับเหมารายย่อย และช่วยการจ้างงานในระดับชุมชน ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจค่อย ๆ ฟื้นขึ้นมาได้ แต่ถ้าเทียบกับการแจกเงิน 4.5 แสนล้านบาท ให้กับประชาชนไปใช้จ่ายผ่านเงินดิจิทัลวอลเล็ต จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้น้อย และที่ผ่านมาหน่วยงานเศรษฐกิจก็ประเมินว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้แค่ 0.9 เท่า เท่านั้น" แหล่งข่าวระบุ

อย่างไรก็ตามในการตัดสินใจขับเคลื่อนโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10000 บาทนั้น คงต้องรอให้รัฐบาลใหม่ตัดสินใจในท้ายที่สุดอีกที โดยที่ผ่านมาในการจัดเตรียมงบประมาณนั้น คณะกรรมการนโบบายเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ภายใต้รัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน” ได้เห็นชอบการจัดเตรียมแหล่งเงินจากงบประมาณรายจ่ายปี 2567-2568 วงเงินรวม 450,000 ล้านบาท ประกอบด้วย

  • งบประมาณปี 2567 มีวงเงินรวมทั้งสิ้น 165,000 ล้านบาท แบ่งเป็น งบเพิ่มเติม 122,000 ล้านบาท และบริหารจัดการงบประมาณ 43,000 ล้านบาท
  • งบประมาณปี 2568 มีวงเงินรวมทั้งสิ้น 285,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงบกลาง วงเงิน 152,700 ล้านบาท และการบริหารจัดการงบประมาณ 132,300 ล้านบาท

ด้าน นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ยอมรับว่า ขณะนี้การจัดเตรียมแหล่งเงินงบประมาณเพื่อใช้ในโครงการได้ข้อสรุปหมดแล้ว และอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของรัฐสภา ทั้งงบประมาณเพิ่มเติมปี 2567 และงบประมาณปี 2568 แต่การขับเคลื่อนโครงการก็ต้องดูรัฐบาลใหม่ว่าจะเดินต่ออย่างไร

อย่างไรก็ตามในกรณีการทบทวนหรือเลิกโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10000 บาท งบประมาณที่กันไว้หลายแสนล้านจะโยกไปใช้ในโครงการอื่นได้หรือไม่ นายเฉลิมพล ยอมรับว่า งบประมาณที่เตรียมเอาไว้ อยู่ภายใต้งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ หากจะเปลี่ยนก็ต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการใช้จ่ายงบประมาณ และเป็นไปตามกรอบกฎหมายเท่านั้น