กอช. รื้อกฎหมายดัน “หวยเกษียณ” เปิดรับฟังความคิดเห็นถึง 30 ส.ค.นี้

17 ส.ค. 2567 | 04:12 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ส.ค. 2567 | 05:10 น.

กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับแก้กฎหมาย เพื่อผลักดันโครงการ “หวยเกษียณ” หลังที่ประชุมครม. เห็นชอบหลักการเรียบร้อย ก่อนชงรัฐบาลใหม่เห็นชอบ

รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับ ร่างพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งเป็นการแก้ไขกฎหมายของ กอช. เพื่อรองรับโครงการสลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ หรือ “หวยเกษียณ” หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 ได้เห็นชอบหลักการของโครงการแล้ว

ทั้งนี้ กอช. แจ้งว่า ในฐานะหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการออมทรัพย์ของสมาชิกและเพื่อเป็นหลักประกันการจ่ายบำนาญและให้ประโยชน์ตอบแทนแก่สมาชิกเมื่อสิ้นสภาพ โดยปัจจุบัน กอช. มีสมาชิกสะสม ณ เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2567 จำนวน 2.616 ล้านคน ซึ่งนับว่ายังมีประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่ยังอยู่ในวัยทำงานแต่เป็นแรงงานนอกระบบ หรือประกอบอาชีพอิสระและยังไม่เข้าสู่ระบบการออมเงินเพื่อการเกษียณ 

อย่างไรก็ดี ระบบออมเงินเพื่อการเกษียณกับ กอช. เป็นการออมภาคสมัครใจและใช้ระยะเวลาการออมเงินระยะยาวเพื่อได้รับเงินบำนาญ แม้ว่าสมาชิกจะได้รับเงินสมทบจากภาครัฐเป็นแรงจูงใจหลักในการออมเงินกับ กอช. 

ดังนั้น เพื่อกระตุ้นและสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายให้เข้าสู่ระบบการออมเพื่อการดำรงชีพในยามชราให้มากขึ้น รวมทั้งเพื่อประโยชน์ในการลดภาระทางการคลังในภาพรวม จากการที่รัฐบาลต้องจัดสรรงบประมาณเพื่อเป็นเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในอนาคต 

จึงเห็นควรดำเนินโครงการสลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ หรือ หวยเกษียณ โดยนำพฤติกรรมการใช้ชีวิตของประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่นิยมการเสี่ยงโชคมาใช้เป็นเครื่องมือในการดำเนินโครงการ นอกจากประชาชนได้มีโอกาสลุ้นตัวเลขคล้ายกับการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล 

ทั้งนี้ไม่มีการบังคับซื้อ โดยให้ซื้อหวยเกษียณ ผ่านช่องทางออนไลน์ในลักษณะแอปพลิเคชันที่ผูกกับบัญชีธนาคาร ไม่จำเป็นต้องซื้อทุกเดือน และจำกัดจำนวนการซื้อต่อคน ต่อเดือนที่เหมาะสม เงินที่ซื้อสลากจะถูกสะสมในบัญชีสมาชิก กอช. ที่ซื้อสลากผู้นั้น โดยรัฐบาลไม่สมทบเงินให้กับผู้ซื้อสลาก และไม่ประกันผลตอบแทนจากการซื้อสลาก และจะได้รับเงินที่ซื้อสลากคืนเมื่อสมาชิกผู้นั้นเกษียณอายุตามเงื่อนไขที่กำหนด 

ทั้งนี้ ในการดำเนินโครงการดังกล่าว จำเป็นต้องมีการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายพระราชบัญญัติกองทุนกรออมแห่งชาติ พ.ศ. 2554 ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบหลักการตามแนวทางในการส่งเสริมการออมทรัพย์ของสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ เพื่อรองรับการเกษียณผ่านโครงการ หวยเกษียณ

สำหรับสาระสำคัญของร่างกฎหมายหรือกฎหมายที่นำมารับฟังความคิดเห็น เพื่อดำเนินโครงการ หวยเกษียณ มีดังนี้

  • เพิ่มวัตถุประสงค์ของกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ที่จะออกจำหน่ายสลากออมทรัพย์เพื่อการเกษียณ
  • กำหนดให้ผู้ที่มีสิทธิซื้อสลากมีอายุตั้งแต่ 15 – 60 ปีบริบูรณ์ เป็นสมาชิกกองทุนการออมห่งชาติ หรือเป็นผู้ประกันตนตามกฎหมายว่าด้วยประกันสังคมมาตรา 40 
  • ขยายโอกาสให้กับผู้ซื้อสลากที่มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปมีสิทธิซื้อสลาก และสะสมเงินที่ซื้อสลากต่อไปได้อีก 10 ปี นับแต่วันที่ซื้อสลากครั้งแรก
  • ผู้ซื้อสลากไม่ว่าจะถูกหรือไม่ถูกรางวัล เงินจะถูกเก็บสะสมไว้และได้รับเงินนั้นคืน เมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์
  • กองทุนจะนำเงินที่ซื้อสลากไปลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทน และจะนำเงินที่ซื้อสลากไว้และผลตอบแทนคืนให้เมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์
  • ผู้ซื้อสลากจะสิ้นสุดการเป็นสมาชิกของกองทุน 2 กรณี ได้แก่ กรณีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ และ กรณีเสียชีวิต
  • กรณีสมาชิกที่ซื้อสลากได้เสียชีวิตลง เงินที่ซื้อสลากมาทั้งหมด และผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุน (ถ้ามี) จะคืนเป็นเงินก้อนทั้งหมดในคราวเดียวให้กับทายาทหรือผู้รับผลประโยชน์ที่ได้แสดงเจตจำนงไว้

อย่างไรก็ตามในการเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อดำเนินโครงการ “หวยเกษียณ” จะเปิดให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้ามาสดงความคิดเห็นได้จนถึงวันที่ 30 สิงหาคม 2567 นี้ ก่อนสรุปรายละเอียดของร่างกฎหมายเสนอไปยังครม.ต่อไป