นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน เปิดเผยว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 วาระที่ 2 – 3 ระหว่างวันที่ 3-5 กันยายน 2567 นี้ พรรคประชาชน จะอภิปรายโครงการสำคัญของรัฐบาล คือ โครงการเติมเงิน 10000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งในปี 2568 จะมีงบเตรียมไว้รอบรับโครงการเพียงแค่ 187,700 ล้านบาทเท่านั้น
“งบประมาณปี 2568 หนีไม่พ้นโครงการใหญ่สุดคือ โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10000 บาท ถึงแม้ว่าจะเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณที่จะใช้หนี้แบงก์รัฐ 35,000 บาทมาโปะให้แล้ว ก็ยังไม่ใกล้เคียงกับยอดที่ต้องใช้กับกลุ่มเป้าหมาย 45 ล้านคน วงเงิน 4.5 แสนล้านบาทเลย” นางสาวศิริกัญญา ระบุ
ทั้งนี้หากพิจารณาการจัดทำงบประมาณรายจ่ายปี 2567 เพื่อนำมาใช้ในโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10000 บาท โดยจะแจกให้กลุ่มเปราะบาง 14 ล้านคนนั้น จะยังต้องเตรียมงบประมาณมาใช้ในโครงการอีกจำนวนมาก เพื่อมาแจกกับคนที่เหลืออีกกว่า 31 ล้านคน และจากการตรวจสอบรายละเอียดงบประมาณในชั้นกรรมาธิการก็ปรับลดงบหรือโอนย้ายรายการงบประมาณ ซึ่งรวมแล้วได้งบเพิ่มอีกแค่ 7,000-8,000 ล้านบาทเท่านั้น
นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า ด้วยการจัดทำงบประมาณเพื่อใช้ในโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10000 บาท ที่ยังคงลูกผีลูกคนอยู่ในตอนนี้ รัฐบาลควรต้องกลับไปคิดให้ดีก่อนจะขับเคลื่อนโครงการออกมา ขณะที่การแถลงนโยบายของรัฐบาลก็ยังไม่ได้แถลง และยังไม่ตกผลึกว่าจะแจกให้คนจำนวนกี่คน แจกด้วยวิธีการไหน และระบบไม่รู้ว่าเสร็จสิ้นหรือยัง ดังนั้นก็จึงควรตัดไปก่อนอย่าเพิ่งรีบร้อน และอาจจะออกเป็น พ.ร.บ.โอนงบประมาณภายหลังได้
ส่วนอีกประเด็นที่ฝ่ายค้านเตรียมอภิปราย คือ งบประมาณที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์เพาเวอร์ในหลายหน่วยงานที่ถูกตัดงบประมาณไป เพราะหลายโครงการไม่มีรายละเอียด ไม่มีการกำหนดเป้าหมาย และตกผลึกมาจากคณะกรรมการยุทธศาสตร์มาก่อน และต่างคนต่างกำหนดเอาเอง เช่นเดียวกับงบประมาณด้านความมั่นคงของกระทรวงกลาโหม ที่มีหลายโครงการที่มีงบประมาณผูกพันอีกหลายปี
นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า สำนักงบประมาณ ได้เตรียมความพร้อมด้านข้อมูลเกี่ยวกับงบประมาณไว้แล้ว และเชื่อว่าการพิจารณางบประมาณวาระ 2-3 จะเป็นไปตามขั้นตอนและกรอบเวลาทั้งหมด โดยหลังจากผ่านการพิจารณาวาระ 2-3 แล้วจะเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาในวุฒิสภา ก่อนจะนำร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป
ส่วนงบประมาณที่จำนำมาใช้ในโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต ในปีงบประมาณ 2568 ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการเปลี่ยนแปลงงบประมาณ โดยปรับลดวงเงินงบประมาณรายจ่ายของรัฐวิสาหกิจ 5 แห่ง คิดเป็นวงเงินที่สามารถลดลงรวมเป็นเงินกว่า 35,000 ล้านบาท และได้ถูกนำไปตั้งเป็นงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจแล้ว
ทั้งนี้จากการตรวจสอบรายละเอียดร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดงบประมาณในส่วนสำคัญ คือ งบประมาณรายจ่ายงบกลาง โดยตั้งงบส่วนนี้ไว้ 842,001 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากกรอบวงเงินที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการในวาระที่ 1 ซึ่งมีกรอบวงเงิน 805,745 ล้านบาท
สำหรับรายการที่ตั้งเพิ่มขึ้นมาคือรายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ เดิมมีกรอบวงเงิน 152,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 187,700 ล้านบาท ขณะที่รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ก็ได้ปรับเพิ่มขึ้น จากกรอบวงเงินเดิม 95,300 ล้านบาท เป็น 96,556 ล้านบาท