วันนี้ (3 กันยายน 2567) นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ปีงบประมาณ 2567 รวมทั้งหมด 5 โครงการ วงเงินรวม 7,402 ล้านบาท ดังนี้
1. ครม.มีมติเห็นชอบการจัดสรรงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นวงเงินรวม 2,289 ล้านบาท เพื่อให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทานนำไปพัฒนาแหล่งน้ำทั่วประเทศ รวม 1,072 โครงการ หลังจากแหล่งน้ำต่าง ๆ ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมฉับพลัน ส่งผลให้อาคารชะประทานได้รับความเสียหาย
รวมทั้งยังมีตะกอนดินอุดตัดคลองส่งน้ำ จึงต้องนำงบประมาณไปปรับปรุงซ่อมแซมอาคารชลประทาน พร้อมทั้งขุดลอกตะกอนดิน และกำจัดวัชพืชด้วย
2. ครม.มีมติเห็นชอบการจัดสรรงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงินรวม 3,017 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม และภัยพิบัติ ของกระทรวงคมนาคม นำไปซ่อมแซมเส้นทางคมนาคมของกรมทางหลวง รวม 207 รายการ ใน 26 จังหวัด และกรมทางหลวงชนบท รวม 101 รายการ ใน 30 จังหวัด
3. ครม.มีมติเห็นชอบการจัดสรรงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เป็นเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ วงเงินรวม 1,214 ล้านบาท เพื่อให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (กระทรวง พม.) นำไปใช้เป็นเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ถึง 6 ปี หลังจากงบประมาณที่ขอรับการจัดสรรไว้เดิมไม่เพียงพอ จ่ายในเดือนกันยายน 2567 จึงเสนอมาของบกลางเพิ่มเติมเพื่อจัดสรรให้เด็กแรกเกิดครอบคลุม 2.28 ล้านคน
4. ครม.มีมติเห็นชอบการจัดสรรงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงินรวม 635 ล้านบาท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามนโยบายของรัฐบาล โดยนำไปใช้จัดซื้อระบบอุโมงค์เอ็กซ์เรย์รถแบบเคลื่อนที่ พร้อมยานพาหนะบรรทุกสำหรับเคลื่อนย้าย จำนวน 5 ชุด ของกองบัญชาการตํารวจปราบปรามยาเสพติด เพื่อป้องกันการลักลอบและลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่ประเทศ
5. ครม.มีมติเห็นชอบการจัดสรรงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงินรวม 247 ล้านบาท เพื่อให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จัดทำโครงการเพื่อพัฒนาทักษะฝีมือบุคคลากรด้านการท่องเที่ยว จำนวน 1 แสนคน