แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 17 กันยายน 2567 นอกจากเห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ซึ่งเป็นโครงการเดิมของรัฐบาลกับ การแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต (Digital Wallet) ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการ หรือกลุ่มเปราะบาง จำนวน 14.55 ล้านคน คนละ 10,000 บาท แล้ว ครม.ยังอนุมัติการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นแหล่งเงินสำคัญของการแจกเงินครั้งนี้
สำหรับมติครม. ครั้งนี้ มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ครั้งที่ 3 ตามที่ คณะกรรมการนโยบายและกำกับบริหารหนี้สาธารณะ เสนอ โดยส่วนแรกเป็นการอนุมัติการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ในส่วนของแผนการก่อหนี้ใหม่ โดยปรับเพิ่มสุทธิ 112,000 ล้านบาท จากเดิม 1,030,580.71 ล้านบาท เป็น 1,142,580.71 ล้านบาท
รวมทั้งยังอนุมัติรายการเพิ่มเติมในการปรับปรุงแผนฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ครั้งที่ 3 อีก 1 รายการ ได้แก่ เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (เพิ่มเติม) อีกทั้งรับทราบการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้เดิม โดยปรับลดสุทธิ 12,603.87 ล้านบาท จากเดิม 2,042,314,06 ล้านบาท เป็น 2,029,710.19 ล้านบาท
แหล่งข่าวระบุว่า เหตุผลสำคัญของการปรับปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ครั้งที่ 3 สอดคล้องกับการจัดทำพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วงเงิน 122,000 ล้านบาท เพื่อเป็นแหล่งเงินสำหรับใช้ในโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ตามนโยบายรัฐบาล
โดยที่ผ่านมาสำนักงบประมาณ ได้จัดทำรายละเอียดของพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมฯ วงเงิน 122,000 ล้านบาท โดยเตรียมไว้สำหรับเป็นงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ ซึ่งกำหนดการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 1.12 แสนล้านบาท