เปิดตัวแจกเงินสดกลุ่มเปราะบาง เติมเงินหมุนเวียนเศรษฐกิจ 1.45 แสนล้าน

25 ก.ย. 2567 | 04:05 น.
อัพเดตล่าสุด :25 ก.ย. 2567 | 04:06 น.

คลังรายงาน นายกฯ “แพทองธาร” กดปุ่มเปิดโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ กลุ่มเปราะบาง ชี้เงินสดถึงมือคนไทย เติมเงินหมุนเวียนเลงระบบ 1.45 แสนล้าน ลุยแจกเงินดิจิทัล เฟส 2

นายพรชัย  ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในวันที่ 25 กันยายน 2567 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรี ได้เปิดตัว (Kick off) โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยเริ่มทำการโอนเงิน 10,000 บาท ให้แก่กลุ่มเป้าหมายรวม 14.55 ล้านคน ในระหว่างวันที่ 25 - 27 กันยายน และ 30 กันยายน 2567

เปิดตัวแจกเงินสดกลุ่มเปราะบาง เติมเงินหมุนเวียนเศรษฐกิจ 1.45 แสนล้าน

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเปิดตัว (Kick off) โครงการฯ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

1. โครงการถึงปัญหาเศรษฐกิจของประเทศไทยที่เรื้อรังมานานหลายปี ไม่ใช่เพียงแค่ผลจากปัจจัยภายใน แต่ยังมีผลจากเศรษฐกิจทั้งโลกที่ฟื้นตัวช้า ซ้ำเติมด้วยปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในหลายภูมิภาค และยังไม่รวมถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทำให้เกิดภัยพิบัติในหลายพื้นที่ทั่วโลก 

โดยประเทศไทยก็ได้รับผลกระทบ เกิดเหตุอุทกภัย ซึ่งถือเป็นครั้งที่รุนแรงมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ จากปัจจัยข้างต้นทำให้เศรษฐกิจไทยฝืดเคือง ไม่เอื้อให้เกิดการลงทุนใหม่ ไม่มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ กระทบการค้าขาย ประชาชนต้องกู้หนี้ยืมสินเพื่อการดำรงชีวิต ได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเปราะบางที่มีรายได้น้อยรวมถึงคนพิการ 

อย่างไรก็ดี ในอนาคตประเทศไทยต้องมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ทำให้พร้อมต่อการลงทุน และอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ที่จะทำให้เกิดรายได้ที่มั่นคงในระยะยาว

2. สำหรับการดำเนินโครงการฯ จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เงินสดถึงมือคนไทย ระบบเศรษฐกิจจะถูกเติมเงินหมุนเวียนกว่า 145,552 ล้านบาท สร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจลูกใหญ่ลูกแรก ที่ทำให้คนไทยได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจในภาพใหญ่ ต่อลมหายใจให้พี่น้องประชาชนรายเล็กที่กำลังเดือดร้อน 

โดยแบ่งเป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวนประมาณ 12.40 ล้านคน และกลุ่มคนพิการจำนวนประมาณ 2.15 ล้านคน ทุกคนจะได้รับเงิน 10,000 บาท ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน หรือช่องทางเดิมในการรับเงินเบี้ยความพิการ 

“พี่น้องประชาชนสามารถนำไปใช้จ่ายได้โดยไม่มีเงื่อนไขแต่อย่างใด สามารถรวมเงินกันเพื่อนำไปลงทุนทำมาค้าขาย สร้างหรือต่อยอดธุรกิจ ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาอุทกภัยในอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งการจ่ายเงินตามโครงการฯ จะเป็นการช่วยกระจายโอกาสทางเศรษฐกิจให้พี่น้องประชาชน สร้างโอกาส สร้างความหวัง นำไปสู่การพัฒนาเพื่อต่อยอดคุณภาพชีวิต ให้พี่น้อง มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี”

3. นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า รัฐบาลยังคงเดินหน้าโครงการ Digital Wallet เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ และวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัลให้ประชาชนสามารถพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล (Digital ID) ได้ เป็นตัวเชื่อมต่อระหว่างรัฐบาลและประชาชน ทำให้การทำธุรกรรมต่าง ๆ กับหน่วยงานรัฐสะดวกขึ้น โปร่งใสตรวจสอบได้ โดยรัฐบาลมีเป้าหมายที่สำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมที่จะเอื้อให้พี่น้องประชาชนใช้ชีวิตอย่างมีความหวัง มีรอยยิ้ม สร้างความเท่าเทียมทางโอกาส เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยให้กลับมาดีอีกครั้ง

สำหรับประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับเงินในวันที่ 25 - 30 กันยายน 2567 นี้ สามารถตรวจสอบผลการจ่ายเงินจากรัฐบาลได้จากแอปพลิเคชันธนาคาร ตรวจสอบจากเครื่องถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) หรือสอบถาม ณ ธนาคาร นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจสอบผลด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของรัฐในวันถัดไปหลังจากวันที่รัฐจ่ายเงิน ได้แก่

1. เว็บไซต์ https://โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ2567.cgd.go.th

2. เว็บไซต์ https://govwelfare.cgd.go.th

3. แอปพลิเคชัน "รัฐจ่าย"

4. แอปพลิเคชัน "ทางรัฐ"

5. Call Center กรมบัญชีกลาง หมายเลขโทรศัพท์ 0 2270 6400 ตั้งแต่วันจันทร์ - ศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 - 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์