วันนี้ (26 กันยายน 2567) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เวลา 09.30 น. โดยมีวาระที่เสนอเข้ามาให้กับที่ประชุมพิจารณาหลายเรื่อง โดยเฉพาะการรายงานสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุดในจังหวัดต่าง ๆ เช่นเดียวกับ การช่วยเหลือเยียวยา ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในหลายกรณี
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า การประชุม ศปช. ครั้งนี้ ต้องจับตาวาระเกี่ยวกับการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือหลายจังหวัด ซึ่งที่ผ่านมามีความชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือด้านค่าไฟฟ้ากับผู้ที่เจอผลกระทบจากน้ำท่วม โดยยกเว้นการเก็บค่าไฟฟ้าในเดือนกันยายน 2567 ส่วนเดือนตุลาคม 2567 จะลดค่าไฟฟ้าลง 30% ออกมาแล้ว
แต่อย่างไรก็ดี กระทรวงมหาดไทย จะนำเสนอเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประชุม ศปช. อีกครั้ง เพื่อขอพิจารณาจัดสรรวงเงินงบประมาณ ก่อนจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบเรื่องของการจัดสรรงบกลางมาดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ในเบื้องต้นกระทรวงมหาดไทย โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้จัดทําข้อเสนอเพื่อดําเนินมาตรการช่วยเหลือด้านค่าไฟฟ้าแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยและกิจการขนาดเล็กที่อยู่ในพื้นที่ที่หน่วยงานราชการประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติจากอุทกภัยสำหรับค่าไฟฟ้าประจำเดือนกันยายนและเดือนตุลาคม 2567 มาแล้ว คาดว่าจะครอบคลุมผู้ที่ได้รับผลกระทบเกือบ 1 ล้านราย คิดเป็นวงเงินประมาณ 1,690 ล้านบาท
ขณะเดียวกันที่ประชุมศปช. ยังเตรียมพิจารณาช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในส่วนอื่น ๆ เช่น การช่วยเหลือค่าน้ำประปา ระบบสื่อสาร การคมนาคมขนส่ง และการฟื้นฟูซ่อมแซมบ้านเรือน รวมทั้งการช่วยเหลือด้านภาคการเกษตรที่ได้รับผลกระทบจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันมีแนวทางการช่วยเหลือ และเกณฑ์การจ่ายเงินเยียวยาด้านต่าง ๆ ของแต่ละหน่วยงานแล้ว โดยคาดว่า จะนำรายละเอียดทั้งหมดเสนอต่อที่ประชุมพิจารณาด้วย
แหล่งข่าวระบุว่า นอกจากการหารือมาตรการเยียวยาแล้ว ที่ประชุมยังจะรับทราบรายงานสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น แผนการช่วยเหลือและฟื้นฟู เพื่อแก้ไขปัญหาดินโคลนถล่มในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ทั้งในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงราย และอำเภอแม่สาย รวมทั้งรับทราบการสรุปผลการดำเนินงานของคณะทำงานที่ตั้งขึ้นก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะคณะทำงานพิจารณา ศึกษา และเสนอแนะแนวทางในการปรับปรุงระเบียบ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยด้วย