นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เปิดเผยว่า ในปี 2568 รัฐบาลได้มีการเตรียมความพร้อมในการส่งเสริมการลงทุน ด้วยการการเพิ่มวงเงินในกองทุนเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือใหม่ ในการดึงดูดการลงทุนของอุตสาหกรรมเป้าหมายเข้าสู่ประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น
“การเพิ่มวงเงินในกองทุนเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ นโยบายนี้ถือว่าเป็นนโยบายที่ดีเพราะในปี 2568 จะเป็นปีที่ประเทศส่วนใหญ่ รวมทั้งประเทศไทยเริ่มใช้มาตรการตามกติกาภาษีใหม่ที่เรียกว่า Global Minimum Tax ตามเกณฑ์ขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือ OECD”
นายนฤตม์ กล่าวว่า มาตรการ Global Minimum Tax นี้ จะบังคับให้บริษัทข้ามชาติที่มีรายได้เกิน 770 ล้านยูโร ต้องเสียภาษีขั้นต่ำ 15% ซึ่งเมื่อประเทศต่าง ๆ เริ่มใช้มาตรการภาษีนี้ ก็เท่ากับมาตรการเรื่องภาษีที่จะเอามาใช้ในการดึงดูดการลงทุนจะมีความสำคัญลดน้อยลงไป และเครื่องมือทางด้านการเงินจะมีความสำคัญมากขึ้นแทน
สำหรับมาตรการทางการเงินที่จะใช้ต้องช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เช่น การพัฒนาทักษะ และฝีมือแรงงาน เรื่องการวิจัยและพัฒนา เรื่องการปรับปรุงเครื่องจักรในการผลิต สิ่งเหล่านี้ จะสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของกองทุนเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ประเทศไทยมีการจัดตั้งกองทุนนี้ไว้และจะสามารถใช้กองทุนฯนี้ในการเดินหน้านโยบายนี้ได้ต่อเนื่อง
เลขาฯ BOI ยอมรับว่า ปัจจุบันหลาย ๆ ประเทศมีเครื่องมือด้านการเงินเข้ามาช่วยสนับสนุนการลงทุน เพื่อรองรับบริษัทขนาดใหญ่ที่มีความหลากหลาย โดยปัจจุบันมีหลายประเทศที่มีการตั้งกองทุนที่มีลักษณะคล้าย ๆ กับกองทุนเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันของประเทศไทยเพื่อที่จะใช้เงินจากกองทุนนี้ทำในเรื่องการช่วยส่งเสริมการลงทุน หรือช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในบางรายการ
“การดำเนินการในลักษณะของกองทุนเพิ่มขีดความสามารถฯ ถือว่าเป็นการดำเนินการที่ไม่ขัดกับหลักของ OECD และ OECD ยอมให้สนับสนุนค่าใช้จ่ายที่นำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งตรงกับเป้าหมายในการตั้งกองทุนเพิ่มขีดความสามารถฯของไทยโดยตรงด้วย” เลขาฯ บีโอไอ ระบุ