นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายรักรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าไปดูรายละเอียด กรณีธุรกิจขายตรง บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด (The iCon Group) นั้น
กระทรวงการคลังจะเข้าไปดูการปรับแก้ ปรับระเบียบกฎหมาย พ.ร.ก.การกู้ยืมที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 โดยจะมีการประชุมร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) สัปดาห์หน้า
“กฎหมายดังกล่าวผลบังคับใช้มานาน ถือว่าเก่ามาก ตั้งแต่รุ่นการแชร์ลูกโซ่แม่ชม้อย โดย สศค. ได้มีการประชุมเรื่องดังกล่าวไปแล้ว และจะมีการหารือร่วมกันในสัปดาห์หน้า เพื่อปรับรูปแบบกฎหมายให้เท่าทันสถานการณ์ และเหตุการณ์ที่เป็นอยู่”
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงจะเข้าไปดูรายละเอียด และหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร็วๆ นี้ ในเรื่องกฎหมายพ.ร.ก.การกู้ยืมที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 ซึ่งขณะนี้ สศค. เป็นผู้ดูแล โดยมองว่า พ.ร.ก.การกู้ยืมที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 ยังคงไม่ได้ล้าสมัยในบริบทปัจจุบัน
แต่การบังคับใช้กฎหมาย หรือที่อยู่ภาคปฏิบัติจะต้องไปดู เพื่อประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย เนื่องจาก สศค. เป็นผู้ร่างกฎหมาย แต่เมื่อร่างเสร็จแล้ว กฎหมายฉบับนี้ไม่ควรมาอยู่ที่ สศค. เพราะเป็นหน่วยงานนโยบาย ไม่ใช่หน่วยงานปฏิบัติ
นายลวรณกล่าวว่า เมื่อเราถือกฎหมายก็ไม่มีอำนาจสืบสวนสอบสวน จะต้องเป็นตำรวจ หรือกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ฉะนั้น การที่จะดูแลผู้เสียหาย หน่วยงานที่ดูแลโดยตรง เช่น DSI ควรจะนำกฎหมายไปถือไว้โดยตรงที่กระทรวงยุติธรรม เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่มาร้องทุกข์ด้วย
ทั้งนี้ ตามกฎหมายพ.ร.ก.การกู้ยืมที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 เราสามารถปรับไปให้หน่วยงานอื่นดูแลได้ แม้ว่าเราจะเป็นผู้ออกกฎหมาย เช่น กฎหมายทรัพย์อิงสิทธิ สศค.ก็ยกร่างให้ในช่วง 4-5 ปีที่แล้ว เพื่อเป็นเครื่องมือในการระดมทุน ให้การทำธุรกิจคล่องตัวขึ้น แต่ภาคปฏิบัติต้องดำเนินการโดยกรมที่ดิน เราก็ยกกฎหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นคนใช้ รมว.มหาดไทยก็เป็นผู้รักษาการตามกฎหมาย