นายวิษณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่จะหมดสัญญาในปี 2572 นั้น
ขณะเดียวกันเบื้องต้นกทม.ได้มอบให้สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) เตรียมความพร้อมการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เส้นทางหลัก สายสุขุมวิท หมอชิต-อ่อนนุชและสายสีสม สนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน
สำหรับเส้นทางดังกล่าวในปัจจุบันมี บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด หรือ บีทีเอสซี ผู้รับสัมปทานโครงการ ซึ่งเริ่มให้บริการเดินรถตั้งแต่วันที่ 4 ธ.ค. 2542 ระยะเวลาสัญญาสัมปทาน 30 ปี โดยจะสิ้นสุดสัมปทานในวันที่ 4 ธ.ค.2572 นั้น
ทั้งนี้กทม.ตั้งงบประมาณปี 2568 วงเงิน 27,680,000 บาท สำหรับว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาวิเคราะห์โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว
หลังหมดสัญญาสัมปทาน 30 ปี ให้สอดคล้องตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ระยะเวลาดำเนินการ 270 วัน
นายวิษณุ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันอยู่ระหว่างร่างเงื่อนไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) จัดจ้างที่ปรึกษา คาดว่าทีโออาร์ จะแล้วเสร็จภายในเดือน ต.ค. นี้ และเปิดประกวดราคาเดือน พ.ย.2567 ลงนามสัญญาจ้างเดือนธ.ค.2567
สำหรับเงื่อนไขสัญญาสัมปทาน โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เส้นทางหลัก นั้น ระบุให้สิทธิ์เอกชนคู่สัญญา กรณีต้องการต่อสัญญาสัมปทานการเดินรถ สามารถยื่นแสดงความจำนงได้ภายในระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี
ทั้งนี้ก่อนหมดสัญญาและต้องเจรจาให้แล้วเสร็จสัมทปาน 3 ปี ขณะนี้สัญญาจะครบ 5 ปี ในเดือนธ.ค. 2567
หากเอกชนต้องการใช้สิทธิ์ต่อสัญญาเดินรถต่อต้องทำหนังสือส่งให้กทม.ภายในกำหนด ส่วนเรื่องสัญญาจ้างเอกชนเดินรถหลังหมดสัญญาสัมปทานเส้นทางหลัก รวมต่อส่วนต่อขยาย 1 และ 2 ไปจนถึงปี 2585
ดังนั้นการจะให้เอกชนรายใหม่เข้ามา จึงเป็นเรื่องยาก กทม. จึงมีเหตุผลและเงื่อนไข กรณีหากมีการเจรจากับเอกชนรายเดิม
นายวิษณุ กล่าวต่อว่า กทม.จึงต้องจ้างที่ปรึกษา เร่งศึกษาหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเดินรถในรอบใหม่ เพื่อรองรับกรณีหากมีการเจรจาเกิดขึ้น โดยดำเนินการตามพ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 (พ.ร.บ. ร่วมลงทุนฯปี 2556) กำหนดขั้นตอน
ทั้งนี้เมื่อเสร็จแล้วต้องเสนอกระทรวงมหาดไทยและสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาว่าจะต่อสัญญาให้เอกชนรายเดิมหรือไม่ หรือเห็นชอบรูปแบบอื่นๆ
อย่างไรก็ตามกทม.เตรียมจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาวิเคราะห์รถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายสายสีลม ตอนที่ 3 ช่วงบางหว้า-ตลิ่งชัน ให้สอดคล้องตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ (PPP) ระยะเวลา 290 วัน งบประมาณทั้งหมด 24.8 ล้านบาท บาท ใช้งบปี 68 จำนวน 12.4 ล้านบาท
นอกจากนี้จะใช้งบผูกพันปี 69 จำนวน 12.4 ล้านบาท อยู่ระหว่างร่างทีโออาร์ คาดว่าขบวนการจัดจ้างแล้วเสร็จพร้อมได้ตัวบริษัทที่ปรึกษาภายในเดือนธ.ค.นี้