จากกรณีที่ วันนี้ 28 ตุลาคม 2567 ที่ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบไปด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ สมาคมธนาคารไทย ได้เข้าพบ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดย กกร.ได้มอบ “สมุดปกขาว” ซึ่งเป็นข้อเสนอของภาคเอกชน เกี่ยวกับแนวทางการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว
โดยเฉพาะการขับเคลื่อรการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน เสนอให้กับนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณา ซึ่งหนึ่งในข้อเสนอ คือ มาตรการ Easy e-Receipt ดูเหมือนว่าจะมีแนวโน้มที่รัฐบาลเตรียมปัดฝุ่นมาตราการ Easy e-Receipt กลับมาอีกครั้งหนึ่ง
ก่อนหน้านี้ กรมสรรพากร กำหนดหลักเกณฑ์มาตรการ “Easy E-Receipt” ลดหย่อนสูงสุด 50,000 บาท เริ่ม 1 มกราคม 2567 ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2567 (ที่จะนำมาลดหย่อนวันที่ 1 ม.ค.- มี.ค.2568) เฉพาะที่ได้รับ e-Tax Invoice หรือ e-Receipt เท่านั้นตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2567 สามารถนำค่าซื้อสินค้าและบริการภายในประเทศมาลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท โดยต้องมีใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากรเท่านั้น สินค้าและบริการที่ใช้สิทธิ “ได้”
กรณีซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
กรณีซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
1. ค่าหนังสือ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร
2. ค่าบริการหนังสือ หนังสือพิมพ์ และนิตยสารที่อยู่ในรูปของข้อบลอิเล็กกรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต
3. ค่าสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว.
ที่มา:กรมสรรพากร