นายปฏิมา จีระแพทย์ ประธานคณะอนุกรรมาธิการด้านตลาดทุนและธุรกิจประกันภัย ในคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงิน และการคลัง วุฒิสภา เปิดเผยว่า ขณะนี้ คณะอนุกรรมาธิการฯ ได้รับหนังสือร้องเรียนจากผู้เสียหายคดีฉ้อโกงหุ้นกู้ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK ที่เดินทางเข้ามาพบหารือเกือบ 100 คน โดยมี นายเอกภักดิ์ ศรีอัษฎาพร เป็นตัวแทนผู้เสียหายเข้ายื่นหนังสือ
ทั้งนี้ผู้เสียหายได้ยื่นหนังสือขอให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่ามีความบกพร่องต่อหน้าที่หรือเลือกปฏิบัติ และเอื้อประโยชน์ให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิดจากคดีทุจริตและฉ้อโกงหุ้นกู้ STARK หรือไม่ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กล่าวโทษบริษัท STARK กรรมการ อดีตกรรมการและอดีตผู้บริหารของ STARK ต่อกรมสอบสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI
กรณีร่วมกันกระทำหรือยินยอมให้มีการลงข้อความเท็จในบัญชีเอกสารของ STARK และบริษัทย่อย ในช่วงปี 2564 - 2565 เพื่อลวงบุคคลใด ๆ และเปิดเผยงบการเงินในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้และร่างหนังสือชี้ชวนที่เชื่อได้ว่ามีการตกแต่งงบ รวมทั้งปกปิดความจริงในข้อมูล factsheet เสนอขายหุ้นกู้ STARK อาจเป็นการกระทำโดยทุจริตหลอกลวง และทำให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากประชาชนผู้ถูกหลอกลวงเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 13,261 ล้านบาท
ทั้งนี้กลุ่มผู้เสียหายจากหุ้นกู้ STARK ได้รวมตัวกันภายใต้ชื่อกลุ่ม “STARK ตัวจริง” และยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่ยังไม่มีความคืบหน้า ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน สร้างความเสียหายแก่สังคมเศรษฐกิจและประเทศชาติ จึงขอให้คณะอนุกรรมาธิการด้านตลาดทุนฯ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นายปฏิมา กล่าวว่า คณะอนุกรรมาธิการฯ ได้รับเรื่องดังกล่าวไว้และจะดำเนินการตามระเบียบข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา ก่อนจะรายงานไปยังประธานวุฒิสภา โดยจะเร่งตรวจสอบและติดตามความคืบหน้าจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กรมสอบสอบสวนคดีพิเศษ และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
“คณะอนุกรรมาธิการฯ ได้รับทราบรายงานปัญหาจากกลุ่มผู้เสียหายแล้ว โดยผู้ร้องเรียนส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนตราสารหนี้ประเภทหุ้นกู้ และได้พูดคุยและรับเรื่องไว้เพื่อไปประสานงานต่อตามขั้นตอน และในขณะเดียวกันเพื่อให้เกิดการทำงานแบบคู่ขนาดก็ได้นัดคุยคณะอนุฯ และคณะทำงานทันทีเพื่อศึกและรวมรวมข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้เสียหายอย่างรวดเร็วต่อไป” นายปฏิมา ระบุ