แม้ว่า "ราคาทองคำ" จะสูงเป็นประวัติการณ์ แต่ผู้บริโภคชาวจีนและนักลงทุนรายย่อยยังคงซื้อ "ทองคำ" โดยได้รับแรงกระตุ้นจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของจีนและการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า
โดยเฉพาะหากโดนัลด์ ทรัมป์ชนะ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการส่งออกของจีนและอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนก็จะเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ยังคงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยจะเริ่มปรับลดแล้วก็ตาม
นอกจากนี้ ผลของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลังของจีนนั้นยังไม่แน่นอน และยังส่งผลกระทบต่อการคาดการณ์ของผมต่อเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนด้วยโดยสรุป ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ที่รักษามูลค่าได้อย่างน่าเชื่อถือที่สุดสำหรับนักลงทุนชาวจีน
ราคาทองคำตลาดสปอตซื้อขายที่ 2,746.3 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ในวันศุกร์ 1 พ.ย. หลังจากแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,790.15 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ในวันก่อนหน้า
ชาวอเมริกันจะไปลงคะแนนเสียงในวันอังคารที่ 5 พ.ย.เพื่อเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ โดยเฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันที่ 6-7 พ.ย. ซึ่งการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐมีแนวโน้มที่จะส่งผลต่อราคาทองคำ
นักวิเคราะห์จาก China Construction Bank กล่าวว่า ตลาดยังคงมีความกังวลกับความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ประกอบกับความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งช่วยพยุงราคาทองคำ และเสริมความแข็งแกร่งในการฟื้นตัวของราคาทองคำแท่ง
ท่ามกลางแนวโน้มของการลดพึ่งพาเงินดอลลาร์ ธนาคารกลางบางแห่งทั่วโลกกำลังกระจายการสำรองเงินตราต่างประเทศและค่อยๆ เพิ่มการถือครองทองคำ ซึ่งขณะนี้ สหรัฐฯ กำลังใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกับประเทศต่างๆ เกือบ 100 ประเทศ และมาตรการคว่ำบาตรยังทวีความรุนแรงมากขึ้น สิ่งนี้กระตุ้นให้ประเทศต่างๆ เพิ่มการถือครองทองคำและสกุลเงินอื่นมากขึ้น
ราคาขายปลีกทองคำแท่งในห้างสรรพสินค้า Dongshan ในเมืองกว่างโจวพุ่งจาก 590 หยวน (82.9 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อกรัมเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมมาเป็นกว่า 640 หยวนในวันพุธที่ 30 ตุลาคม
โดยนับตั้งแต่วันที่ราคาทองคำทะลุ 500 หยวน ต่อกรัม ชาวจีนก็เริ่มเข้ามาต่อแถวซื้อ และที่เคาน์เตอร์ก็แน่นทุกวัน ลูกค้าประจำบางคนได้ถอนเงินฝากประจำก่อนกำหนดและซื้อทองคำแท่งจำนวน 2,000 กรัม ในราคาสูงกว่า 1.2 ล้านเหรียญสหรัฐ
ในช่วงสามไตรมาสแรกของปีนี้ การบริโภคทองคำในจีนลดลง 11% เมื่อเทียบเป็นรายปีเหลือ 742 ตัน ตามข้อมูลของสมาคมทองคำแห่งประเทศจีน ซึ่งระบุว่าราคาที่สูงทำให้ผู้บริโภคเปลี่ยนใจ
ผู้บริโภคชาวจีนซื้อทองคำรูปพรรณ 400 ตัน ลดลง27.53% เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่ซื้อทองคำแท่งและเหรียญทอง 282.721 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.14 เมื่อเทียบเป็นรายปี
เนื่องจากเกณฑ์การลงทุนที่ต่ำและกฎระเบียบที่ไม่ซับซ้อน ยอดขายทองคำแท่งจึงเพิ่มขึ้นที่ธนาคารต่างๆ ในประเทศจีน โดยหลายแห่งได้เพิ่มจำนวนการซื้อขั้นต่ำเมื่อเร็วๆ นี้
ข้อมูลจากสมาคมทองคำแห่งประเทศจีน ระบุว่า การซื้อขายในตลาดทองคำเซี่ยงไฮ้เพิ่มขึ้น 47.49% เมื่อเทียบเป็นรายปีในช่วงสามไตรมาสแรกของปีนี้ โดยที่การถือครองกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนทองคำเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 50 นับตั้งแต่ต้นปี
ทองคำเป็นตัวเลือกที่นิยมสำหรับงานแต่งงาน
แม้ว่าราคาทองคำภายในประเทศจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 30 %ในปีนี้ แต่ทองคำยังคงเป็นตัวเลือกที่นิยมสำหรับงานแต่งงานในจีน โดยเครื่องประดับทองคำที่มีราคาแพงทำให้คนที่กำลังจะเเต่งงานต้องตกอยู่ภายใต้แรงกดดัน โดยราคาขายปลีกเครื่องประดับทองคำสำหรับงานแต่งงานในร้านค้าชื่อดัง เช่น Chow Tai Fook และ Chow Sang Sang พุ่งขึ้นกว่า 820 หยวนต่อกรัมในสัปดาห์นี้ จาก 630 หยวนในเดือนมกราคมที่ผ่านมา
อ้างอิงข้อมูล