ข้อมูลวิเคราะห์ ราคาทองคำ จากฮั่วเซ่งเฮง ระบุว่า ราคาทองคำคืนที่ผ่านมาได้รับแรงหนุนจาก 2 ปัจจัยสำคัญ คือ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความตึงเครียดของสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน อนุมัติให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธ ATACMS ของสหรัฐฯ โจมตีเข้าไปในดินแดนรัสเซีย ส่งผลให้ตลาดกลับมากังวลต่อสถานการณ์ความขัดแย้งที่อาจทวีความรุนแรงขึ้น
ด้าน ราคาทองคำโลก ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 2,620 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และกำลังทดสอบแนวเส้นค่าเฉลี่ย 200 ชั่วโมง โดยคาดว่าราคาอาจมีการย่อตัวในระยะสั้นก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง หากยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ ราคาทองคำ อาจเผชิญแรงต้านสำคัญที่ระดับ 2,642 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับที่คาดว่าจะผ่านขึ้นไปได้ยาก
ล่าสุด โกลด์แมน แซคส์ สถาบันการเงินชั้นนำของโลก ได้ออกมาแนะนำให้ "ลงทุนในทองคำ" พร้อมคาดการณ์ว่าราคาทองคำมีโอกาสพุ่งแตะระดับ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในเดือนธันวาคม 2568
โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากความต้องการซื้อที่เพิ่มขึ้นของธนาคารกลาง และแรงหนุนจากเม็ดเงินที่จะไหลเข้าสู่กองทุน ETF ทองคำ เมื่อธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ทองคำ เป็นองค์ประกอบสำคัญของเงินสำรองของ ธนาคารกลาง เนื่องจากความปลอดภัย สภาพคล่อง และผลตอบแทน ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์การลงทุนที่สำคัญสามประการของธนาคารกลาง ดังนั้น ธนาคารกลางจึงถือครองทองคำจำนวนมาก โดยคิดเป็นประมาณหนึ่งในห้าของทองคำทั้งหมดที่ขุดได้ตลอดประวัติศาสตร์
เพื่อช่วยให้เข้าใจภาคส่วนนี้ของ ตลาดทองคำ สภาทองคำโลก จึงเผยแพร่ข้อมูลสำรองทองคำ ซึ่งรวบรวมโดยใช้สถิติ IFS ของ IMF ซึ่งติดตามการซื้อและการขายที่ธนาคารกลาง (และสถาบันทางการอื่นๆ ตามความเหมาะสม) พร้อมกับทองคำเป็นเปอร์เซ็นต์ของเงินสำรองระหว่างประเทศ
สถิติการถือครองทองคำทางการของโลก เดือนพฤศจิกายน 2024
(หน่วย : ตัน)