นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยในการบรรยายพิเศษหัวข้อ สถานการณ์โลกเรื่องพลังงาน หลังเลือกตั้งสหรัฐ ว่า นโยบายโดนัลด์ ทรัมป์ 2.0 หากมองนโยบายสหรัฐ สิ่งที่เป็นนโยบายเดียวกันคือ Make America Great Again ซึ่งกดดันเศรษฐกิจโลก โดยจะทำให้เกิดผลกระทบ 6 ด้าน ประกอบด้วย
อย่างไรก็ดี เมื่อโดนัลด์ ทรัมป์ มาจะเกิดความผันผวนเรื่องค่าเงินเป็นอย่างมาก รวมถึงการหาเสียงเรื่องภาษีนำเข้าสินค้าจีน 60-100% ซึ่งจีนย้ายฐานผลิตยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี (EV) ไปที่เม็กซิโกจะถูกขึ้นภาษีอีก 200% จึงเป็นที่มาจากนี้ไปการแบ่งขั้วสงครามการค้าจะดุเดือดและรุนแรงขึ้น
ส่วนเทคโนโลยีก็เช่นกัน เพราะโดนจีนแย่งเป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาดไปแล้ว ทั้งในเรื่องของโซลาร์เซลล์ และรถ EV
อย่างไรก็ตาม จากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์จีนกับสหรัฐ จะเกิดการย้ายฐานห่วงโซ่อุปทานเพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมเป้าหมายมาในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งรวมถึงไทย แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ การขาดดุลการค้ากับจีนที่เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นทุกปี โดยปีที่แล้วสูงระดับ 1.4 ล้านล้านบาท ปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 1.5 ล้านล้านบาท
และเมื่อเทียบดูแล้วเวียดนามจะได้ประโยชน์สูงสุดจากสงครามการค้าสหรัฐ-จีน โดยในช่วง 3 ปีเวียดนามทำตัวเลขส่งไปสหรัฐเพิ่มขึ้นทุกปี รองลงมาคือ อินโดนีเซีย ซึ่งแม้ไทยจะส่งออกไปสหรัฐฯ ได้เพิ่มขึ้น แต่ก็นำเข้าจากจีนมากขึ้นเช่นกัน
สำหรับผลกระทบนโยบายทรัมป์ 2.0 ด้านพลังงาน ประกอบด้วย
นายเกรียงไกร กล่าวอีกว่า สิ่งที่รัฐบาลต้องดำเนินการคือ การตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐเอกชนด้านพลังงาน หรือ กรอ.พลังงาน รวมถึงกรอบแผนพลังงานชาติ ที่ต้องการให้มีการดำเนินการอย่างรอบด้าน เพราะโลกมีความเสี่ยงสงครามโลกครั้งที่ 3