รัฐวิสาหกิจเบิกจ่าย 2.2 แสนล้าน “สคร.” กำชับเร่งเครื่องช่วงท้ายปี

28 พ.ย. 2567 | 08:05 น.
อัปเดตล่าสุด :28 พ.ย. 2567 | 08:06 น.

สคร. เผยรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายงบลงทุน 2.2 แสนล้านบาท พร้อมกำชับเร่งเบิกจ่ายช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ พร้อมเร่งลงนามในสัญญา เตรียมเบิกจ่ายช่วงไตรมาสที่ 1 - 2 ปี 68

นายธิบดี วัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า การเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจที่อยู่ในกำกับของ สคร. จำนวน 43 แห่ง ได้แก่

  • รัฐวิสาหกิจที่ใช้ปีบัญชีตามปีงบประมาณ (รัฐวิสาหกิจปีงบประมาณ) จำนวน 34 แห่ง
  • รัฐวิสาหกิจที่ใช้ปีบัญชีตามปีปฏิทิน (รัฐวิสาหกิจปีปฏิทิน) จำนวน 9 แห่ง

มีการเบิกจ่ายงบลงทุนจนถึงเดือนตุลาคม 2567 แล้วจำนวน 229,812 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 97 ของแผนการเบิกจ่าย

ทั้งนี้ แยกเป็นการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจปีงบประมาณ (ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 - เดือนกันยายน 2567) ซึ่งได้สิ้นสุดการเบิกจ่ายงบลงทุนประจำปี 2567 แล้วจำนวน 109,342 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 90 ของแผนการเบิกจ่าย

และรัฐวิสาหกิจปีปฏิทิน (เดือนมกราคม 2567 - เดือนตุลาคม 2567) จำนวน 120,470 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 103 ของแผนการเบิกจ่าย

สำหรับรัฐวิสาหกิจปีงบประมาณที่เบิกจ่ายได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 ของแผนการเบิกจ่ายและมีมูลค่าสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่

  • การรถไฟแห่งประเทศไทย
  • การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)
  • การประปานครหลวง (กปน.)

ขณะที่รัฐวิสาหกิจปีปฏิทินที่เบิกจ่ายได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 ของแผนการเบิกจ่ายและมีมูลค่าสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่

  • การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
  • การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
  • บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 

ทั้งนี้ ในปี 2567 รัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายงบลงทุนได้จำนวน  229,812 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่จำนวน 219,103 ล้านบาท และคิดเป็นร้อยละ 82 เมื่อเทียบกับกรอบงบลงทุนทั้งปีจำนวน 278,602 ล้านบาท และ สคร. ได้กำชับให้กระทรวงเจ้าสังกัดและผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจปีปฏิทินกำกับดูแลและเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุน เพื่อให้การเบิกจ่ายเป็นไปตามเป้าหมายไม่น้อยกว่าร้อยละ 95

สำหรับปี 2568 คณะรัฐมนตรีในคราวประชุมเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2567 ได้มีมติเห็นชอบมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจในปี 2568 ซึ่ง สคร. ได้แจ้งให้รัฐวิสาหกิจดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวโดยเคร่งครัด

และให้กระทรวงเจ้าสังกัดกำกับติดตามการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการลงนามในสัญญาเพื่อเร่งรัดการเบิกจ่ายในช่วงไตรมาสที่ 1 - 2 เพื่อให้การลงทุนของรัฐวิสาหกิจเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศต่อไป