เปรียบเทียบ VAT ไทย-อาเซียน รู้ก่อนรัฐปรับขึ้นภาษี

04 ธ.ค. 2567 | 07:13 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ธ.ค. 2567 | 07:21 น.

อัตราภาษี VAT ทั่วอาเซียน-เอเชีย เทียบชัด 18 ประเทศ พบไทยต่ำสุด 7% ขณะที่มาตรฐานโลก 10-20% พร้อมแนวโน้มการปรับขึ้น

การเปิดเผยของนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ถึงแนวทางปรับโครงสร้างภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ให้สอดคล้องกับนานาประเทศนั้น สะท้อนความท้าทายด้านการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลไทยในปัจจุบัน

จากการวิเคราะห์ข้อมูลเปรียบเทียบอัตราภาษีในกลุ่มประเทศอาเซียนและประเทศสำคัญทั่วโลก (ข้อมูล ณ วันที่ 4 ธันวาคม 2557) พบประเด็นที่น่าสนใจ 3 ด้าน

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ประการแรก ไทยจัดเก็บ VAT ในอัตรา 7% ซึ่งต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนส่วนใหญ่ โดยเวียดนาม กัมพูชา และลาว จัดเก็บในอัตรา 10% ฟิลิปปินส์ 12% อินโดนีเซีย 11% (และมีแผนเพิ่มเป็น 12% ในปี 2568)

ขณะที่สิงคโปร์เก็บภาษีสินค้าและบริการ (GST) ที่ 9% มาเลเซียแยกจัดเก็บเป็นภาษีการขาย 10% และภาษีบริการ 8% มีเพียงเมียนมาที่จัดเก็บต่ำกว่าที่ 5% ส่วนบรูไนและฮ่องกงไม่มีการจัดเก็บ VAT และ GST

ประการที่สอง เมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว อัตรา VAT ของไทยยังห่างจากมาตรฐานสากลค่อนข้างมาก โดยสหราชอาณาจักรจัดเก็บที่ 20% เยอรมนี 19% ญี่ปุ่น 10% ส่วนจีนใช้อัตราแตกต่างกันตามประเภทสินค้าและบริการที่ 13% 9% และ 6%

ข้อมูลอ้างอิง: อัตราภาษีของกลุ่มประเทศในอาเซียนและประเทศสำคัญ ณ วันที่ 4 ธันวาคม 2557 ที่มา: กระทรวงการคลัง

ประการที่สาม ด้วยข้อจำกัดทางกฎหมายที่กำหนดเพดาน VAT ไว้ที่ 10% แม้จะมีการปรับขึ้นจนถึงเพดาน ไทยก็ยังคงมีอัตรา VAT ที่แข่งขันได้ในภูมิภาค เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านที่จัดเก็บในอัตรา 10-12%

อย่างไรก็ตาม การพิจารณาปรับขึ้น VAT จำเป็นต้องคำนึงถึงจังหวะเวลาที่เหมาะสมและผลกระทบต่อประชาชน โดยเฉพาะในภาวะที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ รวมถึงต้องพิจารณาถึงความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระยะยาว

แนวโน้มการปรับขึ้น VAT ครั้งนี้สะท้อนความพยายามของรัฐบาลในการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ ท่ามกลางความท้าทายในการพัฒนาประเทศและการแข่งขันในภูมิภาค โดยรัฐบาลจะต้องพิจารณามาตรการรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนและภาคธุรกิจควบคู่ไปด้วย