นายณพมนัส สังขทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท บีท เดอะ เวิลด์ จำกัด กล่าวว่า “จากความสำเร็จของการวางตลาด จี บีท 2 รสชาติ ได้แก่ Bubble Gum (บับเบิ้ล กัม) และ Apple Booster (แอปเปิ้ลและลูกแพร์) ด้วยการนำเสนอภาพลักษณ์ที่แปลกตากว่าเครื่องดื่มชูกำลังอื่น ๆ ที่เคยมีมาในเมืองไทย เจาะกลุ่มตลาดพรีเมียม จนได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้บริโภค
บริษัทฯ จึงวางแผนในการขยายตลาดช่วงครึ่งปีหลังผ่าน 2 พรีเซ็นเตอร์ “เก้า-สุภัสสรา ธนชาต” และ “URBOYTJ (เต๋า-จิรายุทธ ผโลประการ)” ด้วยแคมเปญออนไลน์เต็มรูปแบบ โดยจะเน้นสื่อสารกับกลุ่มวัยรุ่นอายุ 18-35 ปี ผู้ชื่นชอบในอีสปอร์ตหรือกลุ่มผู้ที่ชอบเล่นเกม/สตรีมเกม
โดยมีกิจกรรมออนไลน์สนุก ๆ ที่ชื่อว่า #จีบีทดีดจัด กับนักกีฬาอีสปอร์ต อย่างทีม Talon Esports เจ้าของเหรียญทองซีเกมส์ ปี 2021 ที่เวียดนาม ซึ่งเราเป็น Official Energy Drink Partner ของทีม ร่วมด้วยเหล่าสตรีมเมอร์ชื่อดังมากมาย รวมไปถึงพรีเซนเตอร์อย่าง เก้า-สุภัสสรา ก็เป็นหนึ่งในคนที่ชื่นชอบในการเล่นเกมออนไลน์ เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่ใช้เวลาอยู่กับโลกออนไลน์กันมากขึ้น”
กลยุทธ์ของ G-BEAT คือการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด เพื่อสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ โดยทุ่มงบประมาณทั้งในสื่อบิลบอร์ด สื่อบน MRT สื่อในร้านสะดวกซื้อ สื่อในมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ รวมไปถึงสื่อออนไลน์ครบทุกช่องทาง ในการสื่อสารไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใช้ชีวิตในโลกออนไลน์ ชอบลองอะไรใหม่ ๆ และต้องการปลดล็อกตัวเองจากบทบาทเดิม ๆ
ผ่านมิวสิกวิดีโอ เพลง “Life is a Game” นำแสดงโดย 2 พรีเซ็นเตอร์ “เก้า-สุภัสสรา ธนชาต” และ “URBOYTJ (เต๋า-จิรายุทธ ผโลประการ)” นักแสดงและนักร้องชื่อดัง ในคอนเซ็ปต์ปลดล็อกเปลี่ยนโลก ที่ทั้งตัวเพลงและมิวสิกวิดีโอพูดถึง “พลัง” ของคนรุ่นใหม่ที่สามารถปลดล็อกกฎเกณฑ์เดิม ๆ เพื่อเปลี่ยนแปลงให้สังคมน่าอยู่มากขึ้น มากกว่าจะนำเสนอผ่านเรื่องแฟชั่นหรือเทรนด์ของวัยรุ่น
และนอกจากนั้นยังเชื่อมต่อโลกออฟไลน์ไปสู่โลกออนไลน์ด้วยการเข้าไปอยู่ในเมือง Metaverse ของเกม GTA ที่ผู้เล่นจะสามารถซื้อเครื่องดื่ม G-BEAT ได้ภายในเกม เพื่อเพิ่มพลัง HP และจะเห็นป้ายโฆษณาของสินค้า รวมไปถึงกิจกรรม #จีบีทดีดจัด กับนักกีฬาอีสปอร์ตและสตรีมเมอร์ชื่อดังอีกมากมาย อีกทั้งในอนาคตยังมองหากลยุทธ์ใหม่ ๆ อย่างการเป็นผู้สนับสนุนหลักของการจัดแข่งขันกีฬาอีสปอร์ต และมุ่งหวังจะเป็น Official Esports Drink ในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกในอนาคตอันใกล้นี้ ควบคู่ไปกับการตลาดผ่านสื่อโฆษณาทั่วกรุงเทพฯ และหัวเมืองต่าง ๆ อีกทั้งยังมีการทำกิจกรรมที่จุดต่าง ๆ รวมทั้งเป็นผู้สนับสนุนงานมิวสิกเฟสติวัล เพื่อสร้างการรับรู้และความน่าเชื่อถือของแบรนด์อีกด้วย
นายสานิต โศภิตจิรพาส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท บีท เดอะ เวิลด์ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า “สินค้าจี บีทได้เริ่มขายช่องทางออนไลน์ และ market place ต่าง ๆ เมื่อเดือนพฤษภาคม และเริ่มวางขายใน 7-Eleven เมื่อปลายเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา ดังนั้นการทำตลาดในช่วงนี้จึงเน้นทำให้คนรู้จักสินค้าและจดจำจุดเด่น รวมทั้งประโยชน์ของสินค้าเราให้ได้มากที่สุด โดยมีกิจกรรมที่สามารถสื่อสารและรับฟังจากผู้บริโภคได้อย่างใกล้ชิดในโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นการพลิกภาพจำของเครื่องดื่มชูกำลังในมุมมองที่ต่างออกไปจากเดิม
เพราะบริษัทฯ ใช้ระยะเวลาในการคิดค้นและพัฒนา เริ่มตั้งแต่การผลิตที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีความสะอาด ปลอดภัย และคุณภาพที่ดีที่สุด ไปจนถึงการพัฒนารสชาติผลิตภัณฑ์ให้เป็นเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ รสชาติอร่อย ดื่มง่าย ใช้คาเฟอีนจากธรรมชาติสกัดจากชาเขียว มีวิตามินเอ บำรุงสายตาที่มีคุณภาพสูงนำเข้าจากยุโรป วิตามินบีรวมสูง และสูตรน้ำตาล 0% เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจว่า เป็นเอนเนอร์จีดริ๊งก์ยี่ห้อแรกที่ใส่ใจในส่วนผสมที่ดีต่อสุขภาพ และพลังงานที่ได้จาก จี บีท จะไม่ใช่พลังงานหลอกจากการใส่น้ำตาลเป็นปริมาณมากเหมือนเครื่องดื่มชูกำลังทั่วไป
อีกทั้งเรายังได้ออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สอดคล้องกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย โดยบริษัทฯ มั่นใจว่าจุดเด่นของ จี บีท จะสามารถสร้างเทรนด์ใหม่ และขยายกลุ่มผู้บริโภคได้ เนื่องจากปัจจุบันเครื่องดื่มประเภทชูกำลังนั้นมีอัตราการเติบโตมาจากผู้บริโภคกลุ่มเจนวาย (GEN Y) และเจนซี (GEN Z) ควบคู่ไปกับการเติบโตของ ‘เกม’ และ ‘อีสปอร์ต’ ที่กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้คนทั่วโลกในตอนนี้”
แม้การแข่งขันของตลาดเครื่องดื่มชูกำลังจะเป็นไปอย่างรุนแรง แต่ก็จะเป็นในส่วนของ Value segment ที่แข่งขันเรื่องราคามากกว่าการใส่ใจในเรื่องของส่วนผสมที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ผู้บริโภคในยุคใหม่กำลังมองหา การเข้ามาในตลาดของ จี บีท ถือเป็นส่วนสำคัญที่กระตุ้นตลาดให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น ให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการบริโภคเครื่องดื่มที่มีนวัตกรรมในด้านของส่วนผสมและรสชาติเพิ่มขึ้น และเข้าใจถึงความต้องการของผู้บริโภคปัจจุบันที่ใส่ใจในเรื่องของความปลอดภัยจากส่วนผสมของเครื่องดื่มและปริมาณน้ำตาลที่ใส่เข้าไปในเครื่องดื่ม
และความต้องการเครื่องดื่มชูกำลังที่ดีต่อสุขภาพ อร่อย กินง่าย บำรุงสายตาและสมองที่อ่อนล้าจากการจ้องจอเป็นเวลานาน “G-BEAT” ได้ถูกพัฒนามาเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค และคาดหวังส่วนแบ่งตลาด 10% ของเซกเมนต์พรีเมียมในปี 2022 และพร้อมรุกออกไปในประเทศเพื่อนบ้านสู่ตลาด CLMV คือ ลาว กัมพูชา เมียนมาร์ และเวียดนาม ในปี 2023