เมืองไทยแคปปิตอลจับมืออุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือเสริมแกร่ง"เลี้ยงผึ้ง"

30 ส.ค. 2565 | 05:49 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ส.ค. 2565 | 13:02 น.

เมืองไทย แคปปิตอล เดินหน้าพัฒนาไทยอย่างยั่งยืน จับมืออุทยานวิทยฯภาคเหนือ  มช. โชว์ผลงาน พัฒนาศักยภาพเกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งภาคเหนือครบวงจร ตั้งแต่เลี้ยง สร้างมาตรฐานผลผลิต แปรรูปสู่ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตลาด จนยืนบนขาตนเองได้   

บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) จับมือ อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (STeP) เผยความสำเร็จ “โครงการสานฝันเกษตรกรไทย จากใจเมืองไทยแคปปิตอล” พัฒนาศักยภาพเกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งภาคเหนือ เพื่อให้เกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งสามารถพึ่งพาตนเองได้ นับเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการต้นแบบความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย ที่นำองค์ความรู้ทางเทคโนโลยีงานวิจัย และนวัตกรรม รวมกับทุนสนับสนุนจากภาคเอกชน มาสร้างประโยชน์ให้กับชุมชนและสังคม อันจะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไปในอนาคต 

 

​เมื่อเร็ว ๆ นี้ที่ NSP Exhibition Hall อาคารอำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ (จังหวัดเชียงใหม่)  บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ร่วมกับอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (STeP)มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดแถลงข่าวความสำเร็จ "โครงการสานฝันเกษตรกรไทย จากใจเมืองไทยแคปปิตอล”  ในกิจกรรมพัฒนาศักยภาพเกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งภาคเหนือ 

เมืองไทยแคปปิตอลจับมืออุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือเสริมแกร่ง\"เลี้ยงผึ้ง\"

เมืองไทยแคปปิตอลจับมืออุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือเสริมแกร่ง\"เลี้ยงผึ้ง\"

โดยนำกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งทั่วภาคเหนือจำนวน 43 ราย ร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ ด้านเทคโนโลยีการเลี้ยงผึ้ง การสร้างมาตรฐานผลิตภัณฑ์น้ำผึ้ง การตรวจสอบคุณภาพ การสร้างแนวคิดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องสำอางจากน้ำผึ้ง การถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการเงิน การตลาด การสร้างแบรนด์ ฯลฯ พร้อมให้คำปรึกษาเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญด้านโมเดลธุรกิจ จนเกิดเป็นผลิตภัณฑ์พัฒนาต่อยอดอย่าง Sleeping Mask น้ำผึ้งทานาคา จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตภัณฑ์จากผึ้งป่าก๋อย จ.เชียงราย และผลิตภัณฑ์เทียนหอม อโรม่า จากวิสาหกิจชุมชนผึ้งจ๋าฟาร์มพะเยา 

 

​ผศ.ดร.ธัญญานุภาพ อานันทนะ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า โครงการนี้เกิดขึ้นจากกลไก "5 โปรแกรมรวมพลัง มช. เพื่อเร่งการฟื้นตัว และการเปลี่ยนผ่านสู่วิถีชีวิตใหม่หลัง COVID-19”  ซึ่งเป็นกลไกการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ จากสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในช่วงสถานการณ์ COVID 

เมืองไทยแคปปิตอลจับมืออุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือเสริมแกร่ง\"เลี้ยงผึ้ง\"

เมืองไทยแคปปิตอลจับมืออุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือเสริมแกร่ง\"เลี้ยงผึ้ง\"

โดยมีกลไกให้ความช่วยเหลือครอบคลุมทั้งนักศึกษา บัณฑิตจบใหม่ที่ยังว่างงาน ผู้ถูกเลิกจ้าง แรงงานคืนถิ่น รวมถึงกลุ่มชุมชน และเกษตรกร โดยใช้ทรัพยากรและความเข้มแข็งของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ไปช่วยภาคประชาชนและสังคม  ประกอบกับอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (STeP) มีหน้าที่เป็นสะพานนำองค์ความรู้ เทคโนโลยี งานวิจัย และนวัตกรรมจากรั้วมหาวิทยาลัย มาเชื่อมโยงสู่ภาคเอกชนในเชิงพาณิชย์ เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 

 

ทั้งยังพบว่าความต้องการของบริษัทขนาดใหญ่ นอกเหนือไปจากการทำงานด้านวิจัยและพัฒนาแล้วนั้น ยังมีความต้องการในการทำกิจกรรม CSR รูปแบบใหม่ ๆ ที่แตกต่างไปจากเดิม จึงเกิดความร่วมมือระหว่างอุทยานฯ กับบริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ผ่านแพลตฟอร์มการให้บริการที่สอดคล้องกับความต้องการของภาคเอกชน ในรูปแบบ CSR Project ซึ่งบริษัท เมืองไทยแคปปิตอลจำกัด (มหาชน) เป็นเอกชนรายแรกที่สร้างความร่วมมือกับทางอุทยานฯ ในการพัฒนากลุ่มผู้ประกอบการผึ้งในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อประโยชน์ของชุมชนและสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผลอย่างแท้จริง

เมืองไทยแคปปิตอลจับมืออุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือเสริมแกร่ง\"เลี้ยงผึ้ง\"

ทั้งนี้ คาดการณ์ 1 ปีจากโครงการดังกล่าว จะสามารถสร้างประโยชน์แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้ง ได้มากกว่า 600 ราย เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 80 คน และสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจรวมกว่า 20 ล้านบาท 

 

นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า จากข้อมูลที่ผ่านมา ประเทศไทยมีการเลี้ยงผึ้งในระดับอุตสาหกรรม โดยสามารถผลิตน้ำผึ้งได้มากเป็นอันดับที่ 36 ของโลก และเป็นอันดับ 2 ของเอเชียรองจากเวียดนาม มีเกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งมากกว่า 1,200 ราย โดย 89 เปอร์เซ็นต์ของเกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งในประเทศไทย อยู่ในพื้นที่ภาคเหนือเป็นส่วนใหญ่ จึงอยากช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์จากผึ้งในภาคเหนือของไทย ให้มีมูลค่าสูงขึ้น สามารถแข่งขันกับตลาดต่างประเทศได้มากขึ้น 

 

จึงคิดอยากสร้างองค์ความรู้ พร้อมสนับสนุนการนำเทคโนโลยีที่จำเป็น มาช่วยในการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ของชุมชน เพื่อเป็นการสร้างประโยชน์กลับคืนสู่กลุ่มเกษตรกร สร้างรายได้เพิ่ม พร้อมยกระดับผลิตภัณฑ์ของชุมชนได้อย่างยั่งยืน โดยลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ กับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นระยะเวลา 3 ปี ซึ่งหลังจากนี้ จะมีการหารือถึงแนวทางความร่วมมือต่อไปในอนาคต 

 

นอกจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่แล้ว บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล เองก็ได้มีความร่วมมือกับหน่วยงานทางการศึกษาและมหาวิทยาลัยต่างๆ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ในการทำกิจกรรมสร้างประโยชน์กลับคืนสู่สังคมอยู่อย่างสม่ำเสมอเรื่อยมา ภายใต้โครงการ “เมืองไทยแคปปิตอล พัฒนาไทยอย่างยั่งยืน” เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับสังคมไทยต่อไป